อิหร่านตำหนิยุโรปไม่รักษาสัญญาข้อตกลงนิวเคลียร์

ความคืบหน้ากรณีที่นายคอร์เนล เฟอรูตา รักษาการ ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ หรือไอเออีเอ เดินทางเยือนอิหร่านเป็นเวลา 1 วันเพื่อติดตามการดำเนินโครงการนิวเคลียร์เพื่อสันติ และได้พูดคุยกับนายอาลี อัคบาร์ ซาเลฮี หัวหน้าสำนักงานพลังงานปรมาณูของอิหร่าน ซึ่งนายซาเลฮี กล่าวโจมตีมหาอำนาจยุโรปว่าไม่รักษาสัญญา และทำให้อิหร่านมีทางเลือกลดน้อยลงในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จึงต้องทยอยยุติการปฏิบัติตามเงื่อนไขในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 เพื่อให้มหาอำนาจยุโรปปฏิบัติตามสัญญา โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเป็นการออกจากเงื่อนไขข้อที่ 3 คือการเพิ่มปริมาณแร่ยูเรเนียมที่เสริมสมรรถนะแล้ว และเปิดเครื่องหมุนเหวี่ยง IR-4 จำนวน 20 เครื่อง และ เครื่องหมุนเหวี่ยง IR-6 จำนวน 20 เครื่อง ซึ่งฝรั่งเศสเรียกร้องให้อิหร่านยุติการเดินเครื่องหมุนเหวี่ยง

ทั้งนี้ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างพยายามรักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่มีความไม่มั่นคงเกิดขึ้นเมื่อสหรัฐอเมริกาออกจากข้อตกลง และบังคับใช้มาตรการลงโทษเพียงฝ่ายเดียวต่ออิหร่าน ซึ่งอิหร่านเห็นว่าไม่มีความเป็นธรรมและเรียกร้องให้มหาอำนาจยุโรปให้ความช่วยเหลือ นายซาเลฮี กล่าวด้วยว่า สหภาพยุโรปหรืออียู ควรเข้ามาเป็นภาคีสมาชิกในข้อตกลงนี้แทนที่สหรัฐฯ แต่ก็เพิกเฉย ซึ่งเท่ากับเป็นการไม่รักษาสัญญา

โดยเมื่อวันอาทิตย์ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ตามถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส และทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ที่ระบุว่า ประธานาธิบดีทั้งสองคนเห็นพ้องให้ใช้กระบวนการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างสันติ

...