รมช.คมนาคม แนะพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับระบบรางเพิ่มมูลค่าการขนส่ง

07 กันยายน 2562, 15:20น.


การพัฒนาท่าเรือแฉลมฉบังให้มีประสิทธิภาพการขนส่ง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ดูการปฏิบัติงานของท่าเรือแฉลมฉบัง โดยมอบหมายให้การท่าเรือแห่งประเทศไทยบูรณาการการขนส่งร่วมกับการรถไฟแห่งประเทศไทยบูรณาการขนส่งระบบทางน้ำและทางรางเข้าด้วยกัน เนื่องจากปัจจุบันทั้ง2ระบบ มียอดการขนส่งรวมกันเพียงร้อยละ7เท่านั้น อยากให้เพิ่มเป็นร้อยละ30 เพื่อลดปัญหาการจราจร ลดระยะเวลาและลดเชื้อเพลิงในการขนส่ง รวมถึงมีแผนพัฒนาท่าเทียบเรือ A5 ของท่าเรือแหลมฉบัง เชื่อมต่อเส้นทางเดินเรือบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อลดปริมาณการจราจรบนถนนพระราม 2 ด้วย รวมทั้งยกระดับให้เป็นท่าเรืออัจฉริยะ ขนถ่ายสินค้าด้วยระบบเทคโนโลยีอัตโนมัติ



สำหรับการเปิดประมูลท่าเรือแหลมฉบังระยะที่3 อยู่ระหว่างขั้นตอนจัดหาเอกชนร่วมลงทุน ซึ่งก่อนหน้านี้บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมประมูลได้ยื่นศาลปกครองกลาง ขอให้คุ้มครองชั่วคราวเพื่อระงับการคัดเลือกผู้ร่วมลงทุน คาดว่า หากไม่ติดอะไร ก็จะสามารถเจรจากับบริษัทเอกชนที่มีคะแนนสูงสุดและลงนามสัญญาได้ภายในเดือนตุลาคม





ด้านเรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หากศาลมีคำสั่งคุ้มครอง ก็จะต้องระงับโครงการท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ไปก่อน แต่อย่างไรก็ตามต้องรอคำสั่งศาลออกมาก่อน ซึ่งระยะที่3นี้เป็นการพัฒนาท่าเรือแฉลมฉบังที่สำคัญ ภายใต้โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติภายใต้ Thailand 4.0 โดยท่าเรือแฉลมฉบังมีพื้นที่รวมประมาณ11,000ไร่ ในปี 2561 มีเรือเทียบท่าเข้ามาประมาณ12,300ลำ สามารถรองรับตู้สินค้าได้ปีละ11ล้านTEU หากระยะที่3สามารถก่อสร้างและดำเนินการได้ ก็จะรองรับตู้สินค้าเพิ่มขึ้นกว่าปีละ 7ล้านTEU ทำให้ท่าเรือแฉลมฉบังสามารถรองรับตู้สินค้าได้ปีละ18ล้านTEU ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากการพัฒนาท่าเรือต่างๆแล้ว การท่าเรือฯยังใส่ใจชุมชนที่อยู่รอบเขตของการท่าเรือด้วย โดยวันนี้ได้เดินทางมามอบอุปกรณ์การเรียนและอุปกรณ์กีฬาให้กับนักเรียนโรงเรียนวัดสุกรีย์บุญญารามด้วย

ข่าวทั้งหมด

X