ที่ประชุมพลังงานอาเซียน เห็นชอบผลักดันความมั่นคงพัฒนาเชื้อเพลิงชีวภาพ

การประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 ในวันนี้มีการออกแถลงการณ์ร่วมกันในนามอาเซียน โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของประเทศไทย ในฐานะประเทศเจ้าภาพจัดการประชุมเป็นผู้นำแถลงระบุว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีพลังงานอาเซียนที่ประกอบด้วยชาติสมาชิกอาเซียน 10 ประเทศได้เห็นชอบความร่วมมือต่างๆร่วมกัน 19 ข้อ เช่น หวังผลักดันให้ภูมิภาคอาเซียนเป็นภูมิภาคที่มีความมั่นคงและยั่งยืนทางด้านพลังงาน โดยที่ประชุมได้หารือเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านพลังงานอาเซียนระหว่างปีพ.ศ.2559-2568 และรับทราบผลการจัดประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานเมื่อปีที่แล้ว ที่ประชุมยังเห็นชอบการศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการซื้อ-ขายไฟฟ้าแบบพหุภาคีที่จะช่วยเพิ่มความสมดุลของระบบสายส่งไฟฟ้า  การสร้างรายได้ให้แก่ประเทศทางผ่าน และจะกลายเป็นศูนย์กำกับดูแลการซื้อ-ขายไฟฟ้าแบบพหุภาคีในอนาคต

ที่ประชุมเห็นชอบความคืบหน้าการทำงานในกรอบ 3 ความร่วมมือทางด้านพลังงาน เช่น การทำงานเกี่ยวกับพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อการคมนาคม รวมทั้งยังหวังว่า จะเกิดความร่วมมือในด้านการศึกษาวิจัยพัฒนาและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีคาร์บอนรีไซเคิล พร้อมเน้นย้ำให้มีการระดมทุนเพื่อให้มีการใช้ประโยชน์จากแหล่งพลังงานที่หลากหลาย

นอกจากนั้น ยังมีการลงนามบันทึกความเข้าใจ(MOU) ระหว่างศูนย์ประสานงานพลังงานอาเซียนกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) เพื่อร่วมกันพัฒนาและวิจัยพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพให้มากขึ้นและนำไปสู่การตั้งศูนย์ศึกษาและพัฒนาเครือข่ายเชื้อเพลิงชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบันทึกความเข้าใจนี้ก็เป็น 1 ใน 19 ข้อที่ที่ประชุมได้ให้ความเห็นชอบด้วย

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของไทย มั่นใจว่า ผลการประชุมครั้งนี้จะช่วยทำให้ภูมิภาคอาเซียนก้าวหน้าและพัฒนาอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทิ้งประเทศใดไว้ข้างหลัง สำหรับการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานครั้งที่ 37 จะประชุมวันนี้เป็นวันสุดท้าย ก่อนที่พรุ่งนี้ผู้นำของแต่ละประเทศจะเดินทางกลับ โดยการประชุมครั้งถัดไปจะจัดขึ้นที่ประเทศเวียดนามในช่วงเดือนกันยายนของปีหน้า

ผู้สื่อข่าว ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร