กรณีเหตุวันที่ 1 กันยายน มีนักธุรกิจชาวจีนถูกคนขับแท็กซี่ขโมยทรัพย์สิน หลังจากที่เรียกแท็กซี่จากหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในซอยอาร์ซีเอไปส่งที่คอนโดย่านซอยเอกมัย 30 โดยนักธุรกิจรายนี้อยู่ในอาการมึนเมา ต่อมาในช่วงรุ่งเช้านักธุรกิจชาวจีนรู้สึกตัว และพบว่าถูกทิ้งให้นอนอยู่หน้าซอยเอกมัย 12 เมื่อตรวจสอบพบว่าทรัพย์สินหายไปหลายรายการ รวมมูลค่ามากกว่า 3,600,000 บาท พ.ต.อ.ปรเมษฐ โพยนอก ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เรียกประชุมชุดทำงาน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่นักธุรกิจชาวจีนขึ้นรถแท็กซี่ พบว่าขณะนั้นมีรถแท็กซี่จอดรอรับผู้โดยสารอยู่ 4-5 คัน แต่ยังไม่แน่ชัด ทั้งสีรถและป้ายทะเบียน ต้องรอชุดสืบสวนสืบหาพยานหลักฐานอย่างละเอียดก่อน และในวันนี้มีการเชิญพยานแวดล้อมซึ่งเป็นเลขาฯของนักธุรกิจชาวจีน รวมถึงคนขับรถแท็กซี่มาสอบปากคำ โดยพบคนขับแท็กซี่คันที่ 2 คือคันที่รับจากซอยเอกมัย 12 ไปยังคอนโดซอยเอกมัย 30 เมื่อช่วงเช้าวันที่ 1 กันยายนแล้ว และพนักงานสอบสวนกันไว้ในฐานะพยาน
ด้านนางพนัชกร พวีสิน เลขาของนักธุรกิจชาวจีน เดินทางมาติดตามความคืบหน้าของคดี พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ตำรวจกำลังไล่กล้องวงจรปิดหาตัวคนขับรถแท็กซี่ที่รับเจ้านายจากอาร์ซีเอไปยังจุดต่างๆ และตรวจสอบช่วงเวลาที่ทรัพย์สินหายไป เนื่องจาก ก่อนขึ้นรถทรัพย์สินยังคงติดตัวอยู่ จนมารู้สึกตัวตอนเช้า และมารู้ว่าทรัพย์สินหายไป ก็เมื่อไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ จะหยิบเงินมาจ่ายและหยิบโทรศัพท์มาใช้ จึงรู้ว่าทรัพย์สินทั้งหมดหายไป ซึ่งนายจ้างบอกว่าอยากได้แหวนแต่งงานและโทรศัพท์มือถือคืนเนื่องจากแหวนแต่งงานมีคุณค่าทางจิตใจ ส่วนโทรศัพท์มือถือมีข้อมูลของลูกค้าอยู่ หลังจากนี้จะต้องรอตำรวจประสานเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติม
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ