อิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุล ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2562 จนถึงวันนี้ 2 กันยายน 2562 นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า พายุส่งผลกระทบ 9 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร อำนาจเจริญ ชัยภูมิ มุกดาหาร ยโสธร ขอนแก่น อุบลราชธานี และร้อยเอ็ด อพยพประชาชน 621 คน ในพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ ขอนแก่น น่าน อำนาจเจริญ ทุกฝ่ายร่วมกันช่วยเหลือประชาชนครอบคลุมทุกด้านกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว นายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา แถลงถึงสถานการณ์พายุลูกใหม่ระดับ 2 บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน พายุลูกนี้จะส่งผลกระทบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือซีกตะวันออกตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 3กันยายน 2562 เริ่มจาก บึงกาฬ หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี นครพนม สกลนคร ขอนแก่น มุกดาหาร อำนาจเจริญ คาดว่าพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจะครอบคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบทั้งหมด จะทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากไปจนถึงเช้าวันที่ 4 กันยายน 2562 จากนั้นตอนบ่ายฝนจะค่อยๆหายไป จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ นครพนม สกลนคร ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด เป็นจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมเป็นส่วนใหญ่ สำหรับภาคอื่น เช่นภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบเล็กน้อย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ย้ำว่า พายุลูกนี้จุดศูนย์กลางยังไม่เข้ามา แต่จะส่งผลกระทบทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เช่น ทางด้านทะเลอันดามัน ระนอง พังงา ภูเก็ต รวมถึง ภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี ตราด จะเกิดฝนตกหนักด้วย
หุ้นไทยปิดตลาดบ่าย ปรับลดลง 0.81 จุด ดัชนีอยู่ที่ 1,654.11 จุด มูลค่าการซื้อขาย 52,702.62 ล้านบาท การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ลดลง 84.18 จุด ปิดที่ระดับ 20,620.19 จุด เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับมาวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานนี้ สหรัฐฯและจีนเริ่มบังคับใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมระหว่างกัน ฮั่งเส่ง ฮ่องกง ลดลง 98.18 จุด ปิดที่ 25,626.55 จุด เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชุมนุมประท้วง โดยมีรายงานว่านักเรียนนับหมื่นคนในฮ่องกง พร้อมใจกันหยุดเรียนเช้านี้เพื่อเข้าร่วมการชุมนุม ขณะที่สำนักงานสารสนเทศแห่งคณะรัฐมนตรีจีน เตรียมแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับสถานการณ์ในฮ่องกงในวันพรุ่งนี้ เหตุไม่สงบในฮ่องกงทำให้ยอดนักท่องเที่ยวลดลงอย่างชัดเจน กระทบธุรกิจหลายอย่าง โดยเฉพาะธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และกาสิโนที่ได้รับผลกระทบหนัก หุ้นในกลุ่มธุรกิจปิดลดลงตั้งแต่ร้อยละ 0.39 ไปจนถึง 3.39 รวมถึงหุ้นบริษัทเอ็มทีอาร์ที่เดินรถไฟฟ้าก็ร่วงลงกว่าร้อยละ 3 ด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาภายในงานสัมมนาไทยแลนด์-เกาหลี จัดโดยสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในโอกาสที่นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นำคณะนักธุรกิจเกาหลีใต้เยือนไทยกว่า 500 รายว่า ได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างไทย-เกาหลีในปี 2563 เป็น 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 6.2 แสนล้านบาท จากปัจจุบันอยู่ที่ 14,000 - 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 450,000 - 460,000 ล้านบาท และเพิ่มบริษัทเกาหลีที่ลงทุนในไทยให้มากกว่าปัจจุบันอยู่ที่ 400 แห่ง ได้ให้บีโอไอและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ดูแลความสะดวกในการลงทุนอย่างเต็มที่ นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลี กล่าวว่า มีแรงงานไทยในเกาหลี 80,000 คน และมีแรงงานเกาหลีในไทย 20,000 คน และในเดือนพ.ย.นี้จะประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่เกาหลี เพื่อเปิดโอกาสการสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ไทย เป็นมิตรภาพกับเกาหลี มิตรภาพนี้จะยั่งยืนไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนสุภาษิตที่ว่า เพื่อนแท้เหมือนทองคำไม่เปลี่ยนแปลง สำนักข่าวยอนฮับ รายงานอ้างกระทรวงการค้าอุตสาหกรรมและพลังงานของเกาหลีใต้ว่า เกาหลีใต้จะลดการพึ่งพาประเทศหลักๆเช่น สหรัฐฯและประเทศจีน ด้วยการทำข้อตกลงการค้าเสรี(FTA)ใหม่ๆกับประเทศในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งอินโดนีเซีย,มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และอิสราเอล โดยเฉพาะ 3 ประเทศแรก เกาหลีใต้ คาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลง FTA ในช่วงการประชุมสุดยอดเกาหลีใต้-อาเซียนในเมืองปูซาน เกาหลีใต้ ในเดือนพฤศจิกายนนี้ กระทรวงการค้าเกาหลีใต้ ตั้งข้อสังเกตว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและประเทศจีน 2 คู่ค้ารายใหญ่ของเกาหลีใต้ ส่อเค้าว่าหนักขึ้นเรื่อยๆ สร้างความไม่แน่นอนให้กับเกาหลีใต้ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของเอเชีย ทั้งนี้ การส่งออกสินค้าของเกาหลีใต้เมื่อปีที่แล้วไปยังสหรัฐฯและประเทศจีน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 และตัวเลขเมื่อเดือนสิงหาคม ชี้ว่าการส่งออกของเกาหลีใต้ไปประเทศจีนลดลงร้อยละ 21.3 เช่นเดียวกับการส่งออกของเกาหลีใต้ไปสหรัฐฯ ลดลงร้อยละ 6.7
การดำเนินคดีกับผู้ร่วมก่อเหตุวางระเบิดในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 4 ราย คือ นายมะยากี มะลาซิง ก่อเหตุที่ห้างสรรพสินค้าแพตตินั่ม ,นายอุสมาน เจ๊ะเต๊ะ ก่อเหตุที่สยามพารากอน ,นายศรัทธา อาแว ก่อเหตุที่สยามสแควร์ , นายสุกรี ดือรามัน ก่อเหตุที่เซ็นทรัลเวิลด์ ในข้อหา เป็นอั้งยี่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์,กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่น, ทำ ใช้ มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ พกพาอาวุธ(ระเบิด)ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และทำให้เสียทรัพย์ ทำให้ขณะนี้ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้วจำนวน 26 หมายจับ ผู้ต้องหาจำนวน 14 คน
CR:FB กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย