สรุปข่าว19.30น.วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562

สรุปข่าว19.30น.วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2562

+++ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่กฎกระทรวงกำหนดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา (ฉบับที่2 ) พ.ศ.2562 ห้ามก่อเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกายผู้อื่นเตรียมการหรือกระทำการใดๆ อันน่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยหรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือรวมกลุ่มหรือมั่วสุมเพื่อกระทำการดังกล่าว ห้ามแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวอันไม่เหมาะสม กระทำการลามกอนาจาร แต่งกายล่อแหลม หรือไม่เรียบร้อยในโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรือแต่งเครื่องแบบนักเรียนหรือนักศึกษาไม่เรียบร้อย” และห้ามเที่ยวเตร่นอกสถานที่พัก รวมกลุ่ม หรือมั่วสุมอันเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ตนเองหรือผู้อื่น

+++พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงการส่งมอบยานเกราะลำเลียงพลสไตรเกอร์ ( Stryker M1126) ว่า เมื่อวันที่ 29 ส.ค. สหรัฐฯ ได้ส่ง สไตรเกอร์ถึงประเทศไทยจำนวน 2 คัน ตามสัญญาจะมีการส่งมอบให้ครบ 60 คันภายในสิ้นปีนี้ เป็นไปตามการจัดหาในปีงบประมาณ 2562 ที่ ทบ.ได้ซื้อจำนวน 37 คัน และ สหรัฐฯให้เปล่าอีก 23 คัน สำหรับปีงบประมาณหน้าคาดว่ามีงบประมาณพอที่จะจัดซื้อเพิ่มเติมอีก 50 คัน และสหรัฐฯอาจให้เปล่าอีก30 คัน จะทำให้กองทัพบกไทยจัดตั้งกรมยานเกราะล้อยางสไตรเกอร์ ที่มียานเกราะบรรจุในอัตรา 100 กว่าคัน

+++ผู้บัญชาการทหารบก ย้ำว่า ยานเกราะที่ ทบ.ไทยซื้อเป็นยานเกราะเครื่องยนต์ถูก เซ็ตซีโร่ สีของตัวรถ เบาะของพลประจำรถมีการเปลี่ยนใหม่หมด เป็นแบบ Level A ไม่ใช่เป็นการซื้อตามสภาพ บางคันกลับจากภารกิจในอิรัก อัฟกานิสถาน แล้วนำมาเปลี่ยนชิ้นส่วนที่สำคัญทุกอย่างให้ ทั้งระบบเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ยาง และ วันที่ 7-8 ก.ย.นี้จะมีการประชุมผู้บัญชาการทหารบกภาคพื้นแปซิฟิคซึ่งเป็นเจ้าภาพร่วมกันระหว่างกองทัพบกไทยและสหรัฐฯ จะมีผบ.ทบ.32ประเทศร่วมปรึกษาหารือ ทั้งนี้เป็นไปตามแผนงานอินโดแปซิฟิคของ ทบ.สหรัฐฯ

+++นายสมนึก รงค์ทอง เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่วิทยุการบินแห่งประเทศไทย(บวท.) เปิดเผยว่าแนวโน้มตลาดการบินในปีนี้มีการเติบโตลดลงอย่างน่าตกใจ ถือว่าต่ำสุดในรอบนับสิบปีที่ผ่านมา บวท.คาดการณ์ว่าปีนี้ตลาดการบินจะขยายตัวเพียง ร้อยละ 1  จากเดิมที่ตั้งเป้าไว้ ร้อยละ 6 โดยมีเที่ยวบินลดลงราว 60,000 เที่ยวบิน อยู่ที่ 1.04 ล้านเที่ยวบินตลอดปี จากเดิม 1.1 ล้านเที่ยวบินในปีก่อน

+++จากปัจจัยเศรษฐกิจทั่วโลกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า(สหรัฐ-จีน) รวมถึงสภาวะสงครามในปากีสถานและการแยกตัวออกจากยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit) สอดคล้องกับยอดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในครึ่งปีแรกที่เติบโตเพียง  ร้อยละ 0.7 ลดลงมากเมื่อเทียบกับการขยายตัวนักท่องเที่ยวในปีก่อนที่ร้อยละ 6-7

+++ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,654.92 จุด เพิ่มขึ้น 15.78 จุด มูลค่าการซื้อขาย 63,135.87 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ จากการผ่อนคลายขึ้นจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ซึ่งจะเจรจากันในเดือน ก.ย.นี้ มีความคาดหวังโอกาสจะตกลงกันได้บางประเด็น

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 สัปดาห์ในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน หลังจากทางการจีนยืนยันว่ากำลังหารือกับสหรัฐฯเกี่ยวกับการจัดประชุมเพื่อเจรจาการค้าในเดือนก.ย. ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 243.44 จุด แตะที่ระดับ 20,704.37 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 21.23 จุด ปิดวันนี้ที่ 25,724.73 จุด

+++การตรวจสอบประสิทธิภาพกำไล EM ของผู้ถูกคุมประพฤติ นายประสาร มหาลี้ตระกูล อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยว่า กรมคุมประพฤติได้รับรายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของกระทรวงยุติธรรมเรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นได้แก้ไขเปลี่ยนจากใส่ข้อมือผู้ถูกคุมประพฤติเป็นข้อเท้าแทน แต่มีบางส่วนต้องทำอาชีพเกี่ยวข้องกับการแสดงหรืองานโชว์ต่างๆ จะให้เขียนรายงานมายังกรมคุมประพฤติเพื่ออนุโลมใส่ข้อมือ รวมทั้ง หากพบมีสัญญาณเตือนเกี่ยวกับการกระแทกเข้ามายังส่วนกลางจะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบทุกกรณีเพื่อป้องกันการถอดออก

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีร่วมกันทุจริตการปล่อยกู้สินเชื่อ ธ.กรุงไทยฯ ให้กลุ่มกฤษดามหานคร  หลังพยานของอัยการโจทก์ ซึ่งเป็นอดีตกรรมการของธนาคารกรุงไทยฯ ผู้เสียหาย เบิกความเกี่ยวกับซุปเปอร์บอสหรือบิ๊กบอส เห็นชอบและสั่งการให้อนุมัติสินเชื่อให้กลับกลุ่มกฤษดามหาคร จำเลยที่ 19 ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นจำเลยที่ 1 หรือไม่ สำหรับ นายทักษิณยังมีคดีที่ศาลฎีกาฯ กำลังพิจารณาอีก คือคดีที่อัยการสูงสุด ยื่นฟ้องกล่าวหาว่านายทักษิณแก้ไขค่าสัมปทานโทรศัพท์มือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพสามิต เอื้อประโยชน์ธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้รัฐเสียหาย 6.6 หมื่นล้านบาท เมื่อปี 2551

+++การประท้วงในฮ่องกง ล่าสุด รอยเตอร์และซีเอ็นเอ็นรายงานว่า รัฐบาลจีนไม่อนุญาต ให้รัฐบาลฮ่องกงจะขอถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติ  ก่อนหน้านี้ นางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะเสนอถอนร่างกฎหมายนี้ออกจากการพิจารณาของสภา ตามข้อเสนอของผู้ประท้วงเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ส่วนกรณีการจับกุม 3 แกนนำคือ นายโจชัว หว่อง น.ส.แอกเนส โจว  จากพรรคเดโมซิสโต พรรคฝ่ายค้านของฮ่องกงเมื่อเช้าวันนี้ และนายแอนดี ชาน นักเคลื่อนไหวอิสระถูกจับเมื่อคืนวาน ล่าสุด ศาลอนุญาตให้นายหว่องและน.ส.โจว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว