ผลการปฏิบัติงาน ปราบปรามการลักลอบค้างาช้า พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจการค้างาช้าง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการปฏิบัติการปราบปรามการลักลอบค้างาช้าง เพื่อเสนอต่อสำนักงานเลขาธิการอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ตั้งแต่ปี 2557 จนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมผู้กระทำผิดและตรวจยึดของกลางงาช้างแอฟริกาได้กว่า 2,000 รายการ น้ำหนักกว่า 9,900 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 990 ล้านบาท พร้อมใช้มาตรการยึดทรัพย์ตามพระราชบัญญัติการฟอกเงิน มาใช้กับผู้กระทำความผิด ทำให้ CITES ปลดบัญชีประเทศไทย จากประเทศน่ากังวลในการค้างาช้าง เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม นับเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จนี้คือ การออกและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง
นับว่า ภารกิจของศูนย์ฯประสบความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือ ร่วมใจของทุกองค์กรทุกฝ่าย ที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ คือห้ามนำเข้า ห้ามส่งออก ห้ามซื้อขาย และไม่สนับสนุน ทลายเครือข่ายแบบถอนรากถอนโคน นำกฎหมายฟอกเงินมาใช้กับนายทุน ผู้ร่วมขบวนการและผู้สนับสนุน เพื่อไม่ให้เกิดการลักลอบค้างาช้างเกิดขึ้นอีก
หลังจากนี้ ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจการค้างาช้างฯ จะยุติการดำเนินงาน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายนที่จะถึงนี้ เมื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการปราบปรามการค้างาช้างผิดกฎหมายจนประสบความสำเร็จ พร้อมการเกษียณอายุราชการของพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ จากนี้ เป็นอำนาจของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติว่าจะมีคำสั่งให้ดำเนินการศูนย์ฯนี้ต่อหรือไม่ แต่ตำรวจยังมุ่งปราบปรามการค้างาช้างอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี และพล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลการปราบปรามการค้างาช้าง
ผู้สื่อข่าว เบญจภรณ์ ผิวเหลือง