จากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯรอบใหม่ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว รอยเตอร์ รายงานว่า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน จากเดิมร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 30 รวมมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นรัฐบาลจีนประกาศในวันเดียวกันว่าจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯกว่า 5,000 รายการ ระหว่างร้อยละ 5-10 รวมมูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้ ล่าสุด รอยเตอร์ รายงานว่านายลิ่ว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของประเทศจีน ที่รับผิดชอบงานด้านเศรษฐกิจและหัวหน้าทีมเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เปิดเผยว่า รัฐบาลจีนจะหาทางแก้ไขปัญหาพิพาททางการค้ากับสหรัฐฯโดยใช้วิธีการเจรจาอย่างมีสติ,การประสานความร่วมมือ และจะคัดค้านการกระทำต่างๆที่อาจจะเพิ่มปัญหาขัดแย้งทางการค้าให้แย่หนักกว่าเดิม นายลิ่ว พูดเรื่องนี้ในที่ประชุมด้านเทคโนโลยีแห่งหนึ่งในนครฉงชิ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนในวันนี้ นอกจากนี้ นายลิ่วได้เชิญชวนบริษัทสหรัฐฯและจากทั่วโลกให้เข้าไปลงทุนและประกอบธุรกิจในประเทศจีน ระบุว่ารัฐบาลจีนพร้อมจะดูแลพวกเขาอย่างเป็นธรรม ทั้งในแง่ของการสร้างเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุน การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมทั้งการส่งเสริมบริษัทใหม่ๆที่มีศักยภาพทางธุรกิจให้เข้าไปประกอบธุรกิจในประเทศจีนให้มากขึ้น
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters