*ตร.ภาค1ขยายผลหลังกวาดล้างจับอาวุธสงคราม- ยาเสพติด เตรียมสอบฐานะการเงินเจ้าหนี้เงินกู้*

การแถลงผลผลการจับกุมอาวุธปืนและยาเสพติดในท้องที่ของตำรวจภูธรภาค1 พลตำรวจตรีอำนวย นิ่มมะโน รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 พร้อมกับ ผู้กำกับสถานีตำรวจในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค1 แถลงข่าว หลังจากที่สั่งการให้ตำรวจภูธรในสังกัดตำรวจภูธรภาค1 ระดมกวาดล้างอาชญากรรม อาวุธสงคราม อาวุธปืน รวมถึงยาเสพติด ช่วงเทศการลอยกระทง ระหว่างวันที่1-7พ.ย. สามารถจับกุมและอาวุธปืนได้327กระบอก โดยพบว่าเป็นปืนที่ไม่ได้จดทะเบียนได้มากถึง225กระบอก นอกจากนี้ยังพบวัตถุระเบิดTNTจำนวน2แท่ง และสามารถจับกุมคดียาเสพติดได้1,659ราย พบของกลางเป็นยาบ้ามากที่สุด60,942เม็ด รองลงมาเป็นไอซ์ ยาอี ยาเค และกัญชา นอกจากนี้ยังสามารถจับกุมหมายจับค้างเก่าได้อีก239ราย

รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 กล่าวว่า เพื่อป้องกันและควบคุมสถานการณ์คดีอาชญากรรม โดยมีเป้าหมายสำคัญเพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบ โดยพบว่าหลังก่อนหน้านี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ประกาศใช้กฏอัยการศึก พร้อมกับออกประกาศให้ผู้ที่มีอาวุธปืน อาวุธสงคราม นำมาคืนกับคสช.พบว่าที่ผ่านมาพบว่าคดีการจับอาวุธสงครามลดลง และคดีที่เกิดจากการใช้อาวุธปืนทำร้ายร่างกายลดลงจากเดิม ซึ่งอาวุธปืนทั้งหมดที่ยึดได้จะทำการตรวจสอบย้อนหลังและเช็คสภาพ หากกระบอกไหนที่ชำรุดจะนำไปรอการทำลายทิ้งต่อไป อย่างไรก็ตามรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค1 เตรียมกวดขันผู้ที่ปล่อยเงินกู้และคดีที่เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ โดยจะให้ทางจังหวัดขึ้นบัญชีผู้มีอิทธิพลและผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ  จะมีการจัดระเบียบและเรียกผู้ปล่อยเงินกู้มาพูดคุยโดยใช้อำนาจของทหาร และหากไม่ยอมเลิกจะประสานกรมสรรพากรประจำจังหวัด ในการตรวจสอบหลักฐานการเงิน และเรื่องภาษี ดูว่าเข้าช่ายการฟอกเงินหรือไม่ อีกทั้งยังมีโครงการที่จะตั้งด่านตรวจทางน้ำ เพื่อเป็นการตัดเส้นทางลำเลียงสิ่งผิดกฏหมาย ที่พบว่าส่วนใหญ่ลักลอบขนทางน้ำเป็นส่วนมาก ทำให้การปราบปรามสิ่งผิดกฏหมายไม่ได้ดีเท่าที่ควร

สานนท์