ที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงเช้าวันนี้ คณะผู้นำภาคราชการพลเรือนอาเซียนและเลขาธิการอาเซียน เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำภาคราชการพลเรือนอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ ครั้งที่ 3 ซึ่งนายกรัฐมนตรี กล่าวต้อนรับและชื่นชมความร่วมมืออาเซียนด้านกิจการราชการพลเรือน ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่เป็นรูปธรรม ทั้งขยายความร่วมมือไปยังประเทศอาเซียนบวกสาม และประเทศคู่เจรจาอื่นๆ
สถานการณ์การชุมนุมประท้วงที่ฮ่องกงในวันนี้ มีหลายกลุ่มที่นัดชุมนุม อาทิ กลุ่มผู้ประกอบวิชาชีพนักบัญชี และกลุ่มนักศึกษา
ส่วนสนามบินนานาชาติฮ่องกง ซื้อหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อลงประกาศคัดค้านการกระทำที่จะเป็นการขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อการทำงาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีธนาคารและธุรกิจยักษ์ใหญ่หลายแห่งซื้อพื้นที่ในสื่อสิ่งพิมพ์เพื่อเรียกร้องให้มีการเจรจาและยุติการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง หลังจากที่การชุมนุมประท้วงส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ
ด้านสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง แจ้งเตือนคนไทยในฮ่องกง เนื่องจากได้รับรายงานว่าผู้ประท้วงจะนัดชุมนุมใหญ่ตลอดเสาร์-อาทิตย์นี้ โดยจะมีการขัดขวางการเดินทางไปยังสนามบินในทุกเส้นทางตั้งแต่เวลา 07.00 น. และมีการเดินขบวนประท้วงในอีกหลายจุด จึงขอให้คนไทยในฮ่องกงและคนไทยที่จะเดินทางมาฮ่องกง เพิ่มความระมัดระวัง และเผื่อเวลาในการเดินทาง ทั้งทางรถยนต์และรถไฟใต้ดิน รวมถึงขอความร่วมมือคนไทยที่อาศัยอยู่ในฮ่องกง และนักท่องเที่ยวไทยที่จะเดินทางมาฮ่องกง ลงทะเบียนคนไทยในต่างประเทศเพื่อเป็นข้อมูลติดต่อหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่เว็บไซต์ของสถานกงสุลใหญ่ฯ
ส่วนสถานกงสุลของแคนาดาในฮ่องกง สั่งระงับการเดินทางของพนักงานชาวฮ่องกงที่จะเดินทางไปจีน สืบเนื่องมาจากการที่มีเจ้าหน้าที่ของสถานกงสุลสหราชอาณาจักรในฮ่องกงถูกจับกุมที่จีน ในข้อกล่าวหาซื้อบริการทางเพศ แต่ครอบครัวระบุว่า เป็นเพราะเจ้าหน้าที่ผู้นี้โพสต์ภาพและข้อความสนับสนุนการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง
เฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดเผยว่า ทางบริษัทได้ปิดเพจ 107 เพจในเมียนมา ร่วมด้วยปิดกลุ่ม 15 กลุ่ม และปิดบัญชีผู้ใช้งาน 89 บัญชี รวมถึงปิดบัญชีผู้ใช้งานอินสตาแกรม 5 บัญชี เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับกองทัพ และมีการปลุกปั่นหรือบิดเบือนการแสดงความเห็นสาธารณะ บางเพจและกลุ่มมีผู้ติดตามหลายแสนคน ซึ่งก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊กปิดบัญชีผู้ใช้งานในเมียนมาไปแล้วหลายร้อยบัญชี ซึ่งรวมถึงบัญชีของผู้บัญชาการทหาร หลังจากมีการวิจารณ์ว่าเฟซบุ๊กไม่สามารถจัดการกับข้อความที่แสดงความเกลียดชัง ท่ามกลางกระแสต่อต้านชาวโรฮิงญา
ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. มีการแถลงข่าวร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. และผู้บริหารการไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน., การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. กรณีที่เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายผลิตภัณฑ์ที่แอบอ้างว่าสามารถประหยัดไฟฟ้าได้ เมื่อใช้งานร้อยละ 20-30 ของการใช้ไฟฟ้าครัวเรือน โดยมีการโพสต์ข้อความหลอกลวงผ่านเว็บไซต์และสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ทั้งมีการแอบอ้างหน่วยงานของรัฐ และนำภาพผู้มีชื่อเสียงมาตัดต่อ เพื่อโฆษณาหลอกลวง
คดีนี้มีผู้ร้องเรียนมายัง สคบ. และแจ้งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ จัดชุดเฉพาะกิจตรวจสอบจับกุมผู้กระทำความผิด พบสถานที่ในการบรรจุสินค้าและจำหน่ายอยู่ในพื้นที่เขตลาดกระบัง และชลบุรีเมื่อเข้าตรวจสอบพบผู้กระทำผิด 3 ราย และหลักฐานเป็นผลิตภัณฑ์สินค้าที่นำมาแอบอ้างและหลอกลวงผู้บริโภค ซึ่งจากการที่เครือข่ายมีการดำเนินการประมาณ 2 ปีคาดว่าจะมีรายได้มากกว่า 50 ล้านบาท
...
ภาพจาก thaigov.go.th