ทันสถานการณ์โลก 6.30 น. 23 สิงหาคม 2562

23 สิงหาคม 2562, 06:01น.


ในระหว่างวันเสาร์ที่ 24 สิงหาคมจนถึงวันจันทร์ที่ 26 สิงหาคมนี้จะมีการประชุมผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศหรือจี 7 ที่เมืองบิอาร์ริตซ์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเป็นการประชุมที่จบลงโดยไม่มีการทำข้อตกลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการประชุมเมื่อปี 2518 หรือจะเป็นครั้งแรกในรอบ 44 ปี หลังจากที่ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมประกาศยกเลิกธรรมเนียมการทำข้อตกลง เนื่องจากมีวิกฤติประชาธิปไตยอย่างรุนแรงมาก


ทั้งนี้ ในการประชุมสุดยอดผู้นำจี 7 จะมีผู้นำจากสหราชอาณาจักร แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาเข้าร่วมการประชุม  แต่ในการประชุมหลายรายการก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีความต้องการทำข้อตกลงการค้าทวิภาคีมากกว่าที่จะทำข้อตกลงพหุภาคี นอกจากนี้ในการประชุมจี 7 ที่นครออตตาวาของแคนาดาเมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังออกจากการประชุมก่อนเวลา ปฏิเสธที่จะลงนามในแถลงการณ์ร่วมสุดท้าย ทั้งยังตำหนินายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดว์ ของแคนาดาในการเจรจาทางการค้า จนทำให้การประชุมเมื่อปีที่แล้วถูกเรียกว่าเป็นการประชุม จี 6+1 ซึ่งทำให้เจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ต้องพยายามอย่างยิ่ง ที่จะทำให้การประชุมผ่านไปได้อย่างราบรื่น


รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟดเดือนกรกฎาคม ระบุว่า คณะกรรมการฯ มีความเห็นแตกต่างกันว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ แต่เห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ว่าต้องการส่งสัญญาณว่าจะไม่มีการออกกำหนดการณ์ล่วงหน้าเรื่องการลดดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า เฟดไม่ต้องการลดดอกเบี้ยตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกร้อง แต่มีความกังวลมากขึ้น เกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ความตึงเครียดทางการค้า และเงินเฟ้อที่ซบเซา และในวันนี้ นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะกล่าวในการประชุมที่แจ็กสันโฮล ทำให้ต้องติดตามกันว่า เฟดจะมีการเปลี่ยนแปลงท่าทีอย่างไร


ส่วนสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี นายคิม ฮยุนจอง รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ประชุมร่วมกับนายสตีเฟ่น บีกัน ผู้แทนพิเศษสหรัฐฯ ว่าด้วยกรณีเกาหลีเหนือ และเปิดเผยว่าทั้ง 2 ประเทศจะกลับมาเจรจาเรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อนำไปสู่การทำงานเพื่อปลดนิวเคลียร์อย่างถาวร


ขณะเดียวกันเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกข้อตกลงแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองทางทหารกับญี่ปุ่น เพื่อตอบโต้ที่ญี่ปุ่นถอดเกาหลีใต้ออกจากบัญชีคู่ค้าที่ได้รับความไว้วางใจ ซึ่งทำให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศมีการทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาโดยเร็ว 


ทั้งนี้ สงครามการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับญี่ปุ่น เริ่มจากการที่ศาลเกาหลีใต้มีคำตัดสินในช่วงปลายปี 2561 ให้พลเมืองสามารถฟ้องร้องบริษัทญี่ปุ่น เรียกร้องเงินชดเชยต่อการบังคับใช้แรงงานทาสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ จากนั้นญี่ปุ่นตอบโต้ด้วยการสั่งควบคุมการส่งออกสารเคมี 3 ชนิดให้แก่เกาหลีใต้ 


ด้านสถานการณ์ความขัดแย้งในฮ่องกง ยังมีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่สถานีรถไฟใต้ดินหยวนหลง และมีการชุมนุมปิดถนน  โดยผู้ประท้วงต้องการให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกลุ่มอันธพาลเสื้อขาวที่ไล่ทำร้ายผู้ประท้วงที่สวมเสื้อสีดำเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 45 คน  


โกลบอล ไทม์ส สื่อจีน รายงานว่า นายไซมอน เฉิง ชาวฮ่องกงวัย 28 ปี ที่ทำงานในสถานกงสุลสหราชอาณาจักรในฮ่องกง ถูกจับกุมตัวในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วยข้อหาซื้อบริการทางเพศ โดยเขาขาดการติดต่อหลังจากที่เดินทางไปดูงานที่เมืองเซินเจิ้น ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับฮ่องกง เมื่อ 8 สิงหาคม จากนั้นเมื่อวันพุธ กระทรวงต่างประเทศจีน ยืนยันว่า นายเฉิงถูกจับกุมและถูกคุมขังเป็นเวลา 15 วันตามกฎหมายความมั่นคงสาธารณะ โกลบอล ไทม์ส รายงานว่า ตำรวจเขตลั่วหู่ ในเซินเจิ้น จับกุมนายเฉิงฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงสาธารณะมาตราที่ 66 ซึ่งเกี่ยวกับการค้าประเวณี หรือซื้อบริการทางเพศ ซึ่งผู้กระทำผิดจะถูกคุมขังไม่น้อยกว่า 10 วัน แต่ไม่เกิน 15 วัน รวมทั้งอาจโดนปรับเงิน 5,000 หยวน แต่ครอบครัวและเพื่อนของนายเฉิงกังวลว่า การจับกุมอาจเกี่ยวข้องกับการที่เขาโพสต์ภาพและแสดงความเห็นสนับสนุนการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง


สถาบันเพื่อการวิจัยอวกาศแห่งชาติ หรือ ไอเอ็นพีอี ของบราซิลเปิดเผยว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นในป่าแอมะซอน มากถึง 72,843 จุดในปีนี้ หรือมากกว่าครึ่งในภูมิภาค และมากกว่าไฟป่าในปีที่แล้วถึงร้อยละ 80  ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เตือนว่าอาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่อแผนการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และทำให้เกิดกระแสแสดงความเป็นกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียพื้นที่ป่า ที่ผลิตออกซิเจนมากถึงร้อยละ 20 สู่บรรยากาศโลก 


โคเปอร์นิคัส โครงการดาวเทียมของสหภาพยุโรป เผยแพร่ภาพดาวเทียมแสดงให้เห็นควันไฟที่ปกคลุมทั่วประเทศบราซิล ไกลถึงชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก เรื่อยไปจนถึงประเทศเพื่อนบ้านอย่างเปรู โบลิเวีย และปารากวัย 


สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 55.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 59.92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล


ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 49.51 จุด หรือร้อยละ 0.19 ปิดที่ 26,252.24 จุด


เอสแอนด์พี ลดลง 1.48 จุด หรือร้อยละ 0.05 ปิดที่ 2,922.95 จุด


แนสแดค ลดลง 28.82 จุด หรือร้อยละ 0.36  ปิดที่ 7,991.39 จุด


***
ข่าวทั้งหมด

X