ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.21 สิงหาคม 2562

21 สิงหาคม 2562, 07:48น.


กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ช่วงวันที่ 20-25 ส.ค.ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ส่วนการคาดการณ์ปริมาณฝนล่วงหน้า 3 เดือน (ส.ค.-ต.ค. 2562) ในเดือนก.ย. จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นและสิ้นสุดฤดูฝนช่วงเดือนต.ค.ในปีนี้เป็นปีที่เริ่มต้นฤดูฝนช้าและสิ้นสุดเร็ว นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล  รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า แม้จะมีฝนตกหลายพื้นที่ แต่ปริมาณน้ำที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำไม่มากนักเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักจากช่วงสัปดาห์ก่อนได้เล็กน้อยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติ ส่วนสภาพน้ำท่าในสายหลักต่างๆทั่วประเทศไทย อยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างน้อยเช่นกัน นายศักดิ์ศิริ อยู่สุข ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 6 กรมชลประทาน เปิดเผยว่า อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางบริเวณภาคอีสานตอนกลางมีน้ำกักเก็บต่ำกว่าร้อยละ 30 เนื่องจากฝนที่ตกช่วงเดือน มิ.ย.-กลางเดือน ก.ค. ฝนตกต่ำกว่าเกณฑ์เฉลี่ยถึงร้อยละ 30-40 ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำและแหล่งน้ำธรรมชาติน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนในฤดูแล้งปี 2562/2563 สำนักงานชลประทานที่ 6 เชิญการประปาส่วนภูมิภาคและภาคอุตสาหกรรมซึ่งเป็นผู้ขอใช้น้ำจากชลประทานในเขตความรับผิดชอบทั้ง 5 จังหวัดในภาคอีสานกลางกว่า 88 แห่ง มาหารือเพื่อวางมาตรการแก้ปัญหาร่วมกัน มี 7 อ่างเก็บน้ำ ที่มีปริมาตรน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ได้แก่ ในจ.ชัยภูมิ 1 แห่ง จ.มหาสารคาม 2 แห่ง จ.กาฬสินธุ์ 3 แห่ง และจ.ร้อยเอ็ด 1 แห่ง



นโยบายการจัดระเบียบรถตู้สาธารณะ วันนี้ กระทรวงคมนาคม จะแถลงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย โดยเฉพาะการตั้งเช็กกิ้งพอยต์ หรือ จุดตรวจรถรับจ้างโดยสารสาธารณะทุกประเภท นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง กล่าวว่า คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลาง หารือเรื่องการเปลี่ยนรถตู้เป็นมินิบัส เมื่อครบอายุการใช้งาน 10 ปี มีมติให้กลุ่มรถตู้สายสั้นหมวด 1 กับ 4 ได้แก่ รถร่วม ขสมก.ที่วิ่งระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล วิ่งระหว่างอำเภอ หรือวิ่งตามซอย ที่กำหนดว่าต้องเปลี่ยนเป็นรถมินิบัสตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2562 สามารถขยายเวลาในการเปลี่ยนออกไปได้อีก 180 วัน ส่วนกลุ่มรถตู้สายยาวที่วิ่งระหว่างจังหวัด ระยะ 300 กม.ขึ้นไป ยึดมติเดิมต้องเปลี่ยนเป็นมินิบัส เมื่อรถครบอายุการใช้งานวันที่ 1 ต.ค. 2562 จำนวน 355 คัน จะต้องเปลี่ยนเป็นมินิบัสทันที แต่หากไม่เปลี่ยน ต้องหยุดให้บริการ กรณีอุบัติเหตุรุนแรงรถตู้โดยสารไม่ประจำทางของ หจก.นาวินทราเวล 2016 ชนประสานงากับรถพ่วง 18 ล้อบรรทุกข้าวโพด บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอวังสมบูรณ์ ถนนสาย 317 สระแก้ว-จันทบุรี หมู่ 1 ต.วังใหม่ อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ช่วงเช้ามืดวันที่ 18 ส.ค.ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ตำรวจคาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากคนขับรถตู้หลับใน พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว กล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บว่าผู้เสียชีวิตที่โดยสารมาในรถตู้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด มีสิทธิได้รับค่าทดแทนความเสียหายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ประมาณ 3 แสนบาท ไม่รวมค่าทดแทนความเสียหาย ตามสัญญาประกันภัยภาคสมัครใจของรถทั้ง 2 คัน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ เบื้องต้น พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ ดูแลค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้น รายละ 8 หมื่นบาท ถ้าค่ารักษาพยาบาลเกินจากจำนวนนี้ บริษัทที่รับประกันภัยภาคสมัครใจของรถคันคู่กรณีจะรับผิดชอบตามสัญญาประกันภัย ความคืบหน้าคดีจากการตรวจสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุพบว่า จุดชนกันอยู่ในช่องทางเดินรถฝั่งของรถบรรทุกพ่วง อยู่ระหว่างรอพยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร ต้องรอผลการสอบสวน ประกอบกับคนขับรถตู้เสียชีวิตด้วย นอกจากนี้ มีการจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์เส้นทางก่อนถึงจุดเสี่ยง เบี่ยงเส้นทางในกรณีที่มีการก่อสร้างให้มองเห็นได้ชัดทั้งกลางวันและกลางคืน ตลอดเส้นทางสาย 317 สระแก้วจันทบุรี



ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีวงเงินรวม 3.16 แสนล้านบาท ทั้งการช่วยเหลือเกษตร ดูแลค่าครองชีพ และการท่องเที่ยว สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ประเมินว่า จะมีผลต่อจีดีพีประมาณร้อยละ 0.5-0.6 1 ในมาตรการที่กระทรวงการคลังเสนอมามีทั้งหมด 3 ด้าน เริ่มจากมาตรการบรรเทาค่าครองชีพผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งทุกคนที่ถือบัตร 14.5 ล้านคน จะได้รับการเติมเงินพิเศษเพิ่มคนละ 500 บาท รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุที่ถือบัตร จะได้รับเดือนละ 500 บาท เป็นเวลา 2 เดือน ระหว่างเดือนส.ค.-ก.ย.และผู้ถือบัตรที่มีบุตรตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 ปี จะได้เดือนละ 300 บาท เป็นเวลา 2 เดือน เช่นเดียวกัน โดยให้ไปใช้ซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมีเลขบัตรประจำตัวประชาชน ขึ้นต้นด้วยเลข 31 33 37 38 และ 39 จะได้รับเงินเดือนละ 500 บาท เป็นเดือนแรก และอีกครั้งในวันที่ 6 ก.ย. ผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 32 34 35 และ 36 เงินจะเข้าบัตรในวันที่ 22 ส.ค. กับวันที่ 7 ก.ย. ผู้มีสิทธิที่มีเลขบัตรประชาชนขึ้นต้นด้วยเลข 1 2 4 5 และ 8 เงินจะเข้าบัตรในวันที่ 23 ส.ค. และวันที่ 8 ก.ย. ส่วนผู้สูงอายุ ที่มีผู้ได้รับสิทธิ 5 ล้านราย เงินจะเข้าบัตรในวันที่ 24 ส.ค. และ 9 ก.ย. ส่วนมาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตร 300 บาทต่อคนต่อเดือน โดยมีผู้ลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด จำนวนกว่า 8 แสนราย เงินจะเข้าบัตรในวันที่ 24 ส.ค. และ 9 ก.ย. ความเคลื่อนไหวราคาน้ำมันโลก ปิดบวก 3 วัน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 56.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 60.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนหุ้นวอลล์สตรีท ปรับลดลงท่ามกลางความกังวลสถานะเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า ยังคงแข็งแกร่ง ดาวโจนส์ ลดลง 173.35 จุด ปิดที่ 25,962.44 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 23.14 จุด ปิดที่ 2,900.51 จุด แนสแดค ลดลง 54.25 จุด ปิดที่ 7,948.56 จุด ราคาทองคำ ในวันอังคาร เพิ่มขึ้น 4.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,515.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังการปรับลดลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ



นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 51 และการประชุมรัฐมนตรีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ครั้งที่ 7 และการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 3-10 ก.ย.2562 ที่กรุงเทพฯ ประเด็นสำคัญในการประชุมอาเซียนจะติดตามการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของอาเซียนนับตั้งแต่ไทยรับหน้าที่เป็นประธาน เพื่อนำเสนอต่อที่ประชุมผู้นำอาเซียนต้นเดือนพ.ย.2562  จะมีการลงนามในเอกสารสำคัญ 2 ฉบับ คือ ข้อตกลงยอมรับร่วม (MRA) ผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์และชิ้นส่วนของอาเซียน และพิธีสารว่าด้วยกลไกระงับข้อพิพาทด้านเศรษฐกิจของอาเซียนฉบับปรับปรุง รวมทั้งจะหารือถึงการทบทวนความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ซึ่งบังคับใช้มาแล้ว 8 ปี ให้ทันสมัย และการหารือกับคู่เจรจา 10 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สหรัฐฯ แคนาดา และรัสเซีย



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X