ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 19 สิงหาคม 2562

การชุมนุมในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงในช่วงสุดสัปดาห์ ยังมีประชาชนจำนวนมากเข้าร่วมการชุมนุมทั้ง 2 วันเพื่อสื่อให้ทางการจีนเห็นว่า ชาวฮ่องกงยังให้การสนับสนุนการชุมนุมประท้วงที่ดำเนินมาถึงสัปดาห์ที่ 11 แม้ว่าจะมีรายงานว่าทางการจีนเตรียมใช้กำลังเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางเข้ามาปราบปรามการชุมนุมประท้วงอย่างเด็ดขาด

ทั้งนี้ ชนวนเหตุของการประท้วงในรอบนี้มาจากการเรียกร้องให้ถอนร่างกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดนออกจากการพิจารณาของสภานิติบัญญัติ จากนั้นก็เป็นการเรียกร้องให้นางแคร์รี่ แลม ลาออกจากตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเขตปกครองฮ่องกงในทันที ยุติการเรียกการประท้วงว่าผู้ก่อจลาจล ทั้งให้ยกเลิกข้อกล่าวหาผู้ประท้วงที่ถูกจับกุม ตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนการใช้ความรุนแรงของตำรวจ และปฏิรูปการเมือง นอกจากนี้แล้ว ผู้ประท้วงจำนวนมากมีความกังวลที่หลักการปกครองหนึ่งประเทศสองระบบจะสิ้นสุดลงในปี 2590

การประท้วงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องหลายสัปดาห์ นับเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดสำหรับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นับจากเข้ารับตำแหน่งในปี 2555 และเกิดขึ้นในขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์กำลังเตรียมงานรำลึกครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในวันที่ 1 ตุลาคมนี้

สำนักงานตำรวจฮ่องกงออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงท้องถิ่นมีความสามารถมากพอที่จะควบคุมสถานการณ์ในดินแดนที่เป็น 1 ใน 2 เขตปกครองพิเศษ และมีเป้าหมายการจับกุมแกนนำของกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งหลายคนออกเดินทางออกจากเกาะฮ่องกงไปแล้ว

ด้านการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ผู้แทนเจรจาการค้าของทั้งสองประเทศจะมีการประชุมกันในเดือนกันยายนตามกำหนดเดิมแม้ว่าสหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้าจีนมูลค่ากว่า 125,000 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 1 กันยายนนี้ และเขาจะโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีสีในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ก่อน ทางการจีนประกาศว่าจะใช้มาตรการตอบโต้การที่สหรัฐฯเรียกเก็บภาษีศุลกากรรอบใหม่ และต้องการให้ข้อตกลงการค้าเป็นไปอย่างสมเหตุผล กระทรวงการคลังจีนระบุว่า มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ละเมิดฉันทามติที่ประธานาธิบดีทั้ง 2 คนทำไว้ในการประชุมที่ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมิถุนายน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนยันว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามจะต้องเป็นไปตามความต้องการของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังเชื่อมโยงการทำความตกลงการค้าเข้ากับสถานการณ์ในฮ่องกง ด้วยการระบุว่า ประธานาธิบดีสีจะต้องแก้ปัญหาสถานการณ์ประท้วงในฮ่องกงก่อน

โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดประมาณการเติบโตของ 4 เสือเศรษฐกิจเอเชีย ที่ประกอบไปด้วย ฮ่องกง สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และไต้หวัน เนื่องจากความตึงเครียดทางการค้า นายแอนดรูว์  ทิลตัน นักเศรษฐศาสตร์โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อธิบายว่า 4 เสือเศรษฐกิจได้ประโยชน์มากจากโลกาภิวัตน์และการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในเอเชียแปซิฟิก แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นเมื่อเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง โดยคาดว่าฮ่องกงจะมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี หดตัวลงร้อยละ 0.5 ในช่วงไตรมาสสามเมื่อเทียบกับหนึ่งปีก่อน จากที่เดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.1 และคาดว่าการเติบโตในปีนี้ทั้งปีจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.2 ส่วนสิงคโปร์ ลดประมาณการจีดีพีลงมาอยู่ที่ร้อยละ 0.4 จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.1 ขณะที่เกาหลีใต้ ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 1.9 จากเดิมคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.2 และไต้หวัน ปรับลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.3 จากที่คาดการณ์ไว้ร้อยละ 2.4

ส่วนกรณีที่ทางการยิบรอลตาร์ยึดเรือบรรทุกน้ำมันของอิหร่านซึ่งต้องสงสัยว่าฝ่าฝืนมาตรการของสหภาพยุโรปในการลงโทษทางเศรษฐกิจซีเรีย ด้วยการลำเลียงน้ำมันไปให้ซีเรีย ต่อมาศาลมีคำสั่งให้คืนเรือลำนี้ แต่สหรัฐฯ ยื่นเรื่องคัดค้านในทันที ล่าสุดทางการยิบรอลตาร์ ปฏิเสธคำร้องของสหรัฐฯ โดยชี้แจงว่า มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ กับยุโรป มีความแตกต่างกัน และเรือออกเดินทางจากยิบรอลตาร์แล้วเมื่อวานนี้

 ...