เลขาธิการ สทนช.เป็นห่วงพื้นที่เพาะปลูกเสียหาย หากขาดแคลนน้ำ เยอรมนีร่วมมือพัฒนาลุ่มน้ำ

15 สิงหาคม 2562, 21:47น.


 สถานการณ์ภัยแล้งในปีหน้า นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ประเมินว่า หากช่วงฤดูฝนที่เหลือไม่มีพายุเข้าไทยตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์จะทำให้มีพื้นที่การเกษตรอย่างน้อย 10 ล้านไร่ที่จะได้รับผลกระทบไม่อาจทำการเพาะปลูกได้  จำนวนนี้จะมีอย่างน้อย 8 แสนไร่ที่จะได้รับความเสียหาย  ซึ่งต้องหามาตรการเยียวยาเกษตรกร พร้อมคาดว่าเมื่อหมดฤดูฝนปริมาณน้ำใน 4 เขื่อนหลักจะเพียงพอต่อการใช้ในระบบนิเวศและการอุปโภคบริโภค ซึ่งต้องใช้น้ำอย่างน้อย 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ส่วนตัวก็ขอให้ประชาชนประหยัดน้ำและน้ำทุกหยดที่ไหลเข้าเขื่อนจากนี้ต้องเก็บตุนไว้เพื่อใช้ในฤดูแล้งปีหน้าเท่านั้น คาดว่าปลายเดือนนี้สถานการณ์ปริมาณน้ำจะชัดเจนมากขึ้น



นายสมเกียรติ ยังบอกว่า ได้แจ้งเรื่องสถานการณ์น้ำไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เตรียมแผนการรองรับแล้วโดยให้ทุกหน่วยเร่งทำแผนโรดแมปการจัดการน้ำและให้วางแผนการเพาะปลูกให้เกษตรกรให้ชัดเจน พร้อมคาดว่าฤดูฝนปีหน้าจะมีปริมาณน้ำฝนมากกว่าปีนี้



ส่วนการจัดทำธนาคารน้ำใต้ดินที่ก่อนหน้านี้มีนักวิชาการแสดงความไม่เห็นด้วย ล่าสุดพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปศึกษาในเรื่องความสะอาดของน้ำ โดยเฉพาะวัสดุที่ใช้ว่าต้องสะอาด ส่วนตัวมองว่าแนวคิดธนาคารน้ำใต้ดินเป็นแนวคิดที่ดี เพราะหลายพื้นที่นำน้ำไปใช้ได้ แต่หากทำไปโดยไม่ศึกษารายละเอียดให้ดีแล้วผลที่ออกมาเป็นลบก็จะแก้ไขได้ยาก ทั้งนี้การทำธนาคารน้ำใต้ดินยังต้องศึกษาชั้นดินของแต่ละพื้นที่ว่าพื้นที่ใดขุดไปแล้วจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ได้ โดยได้มอบให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลไปศึกษาและรายงานผลกลับมาแล้ว





นายสมเกียรติ ยังระบุถึง การแก้ปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งซ้ำซากในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังจากการลงพื้นที่ในวันนี้ว่า ขณะนี้สทนช.ได้นำโครงการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์พื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรัง และโครงการความร่วมมือไทย-เยอรมนี ภายใต้แผนงานความร่วมมือไทย-เยอรมันด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Thai-German Climate Programme-Water: TGCP-Water) มาประยุกต์ในการแก้ปัญหาในพื้นที่ โดยตัวโครงการประเมินสิ่งแวดล้อมฯนี้จะเป็นการกำหนดเป้าหมายการพัฒนาลุ่มน้ำสะแกกรังให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่



ส่วนโครงการความร่วมมือระหว่างไทย-เยอรมนี ทางเยอรมันจะนำเทคโนโลยีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สอดคล้องกับการพัฒนาลุ่มน้ำมาช่วยประเทศไทย โดยเบื้องต้นทางเยอรมันจะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยออกแบบการพัฒนาลุ่มน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำสะแกกรังและลุ่มน้ำยม โดยในวันนี้ทางอุปทูตสถานเอกอัครราชทูตเยอรมนีประจำประเทศไทยและคณะได้ร่วมลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำสะแกกรังด้วย



 



ผู้สื่อข่าว ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร



 

ข่าวทั้งหมด

X