นายประหยัด พวงจำปา รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) พร้อมทนายความ แถลงข่าว หลังถูกชี้มูลความผิดปกปิดบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินกว่า 227 ล้านบาทว่า การดำเนินคดี เป็นการกลั่นแกล้งและดำเนินการไม่ชอบหลายประการไม่ให้ความเป็นธรรม เพราะกรรมการปปช. และเลขาธิการปปช.ไม่เคยให้โอกาสได้ชี้แจงด้วยวาจา และไม่เคยให้เข้าพบ หรือมีการเปิดโอกาสให้ได้อธิบายชี้แจง และไม่เคยแจ้งผลการพิจารณาตามหนังสือขอความเป็นธรรม ทั้งที่ได้ร้องขอความเป็นธรรมหลายครั้งเป็นการพิจารณาไต่สวนเพียงฝ่ายเดียว ทำให้ขณะนี้ ได้ยื่นฟ้องนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ปปช. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาคหนึ่งในข้อหาหรือฐานความผิดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157 เป็นคดีหมายเลขดำที่ อท.40/2562 และจะฟ้องร้องดำเนินคดี กับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอีกหลายคนที่ทำเป็นกระบวนการต่างกรรมต่างวาระหลายครั้งต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เชื่อว่าเป็นการกลั่นแกล้งกันคืออะไร นายประหยัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยเป็นแคนดิเดตชิงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการ ปปช. พร้อมกับนายวรวิทย์ สุขบุญ แต่เมื่อนายวรวิทย์เป็นเลขาฯ ตนได้เป็นรองเลขาฯ และถูกลดบทบาทในการทำงาน บางครั้งต้องรักษาการรองเลขาฯ และสุ่มเสี่ยงถูกประเมินผลงานให้ถูกออกจากราชการ
นายประหยัด ยังบอกว่า การมีข้อบกพร่องสำคัญผิดในการยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และเป็นเรื่องของภรรยาของเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งเป็นคนละคนกันย่อมมีความเข้าใจผิดได้
ส่วนเมื่อมีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีเครือ ปตท. ลงทุนปลูกปาล์มที่อินโดนีเซีย นายประหยัด กล่าวว่า คดีนี้เกิดขึ้นนานมาก ตนไม่เคยยุ่งเลย เคยไปอินโดนีเซียแค่ครั้งเดียวกับนายวิชา มหาคุณ อดีตกรรมการ ปปช. โดยไปศึกษาดูงาน ไม่เคยรู้จักเจ้าหน้าที่ ปตท. และภรรยาตนไม่เคยไปอินโดนีเซีย ไม่เคยรู้จักเหมือนกัน แต่เห็นว่าเป็นกรรมการผู้จัดการในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน มีการเชื่อมโยง คิดเอาเองทั้งนั้น สิ่งเหล่านี้ไม่มีการพิสูจน์ ต้องพิสูจน์ให้ชัดก่อน