การจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไต้หวันที่ใช้ไทยเป็นฐาน ข่มขู่เรียกเงินคนชาติเดียวกันมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยว่าได้รับการประสานงานจากตำรวจไต้หวันว่ามีกลุ่มคนร้ายชาวไต้หวันได้ตั้งศูนย์โทรศัพท์ Call Center ในประเทศไทยผ่านระบบโทรศัพท์ทางอินเทอร์เน็ต และหลอกลวงเหยื่อชาวไต้หวันโดยปลอมเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสุขภาพหลอกเหยื่อซึ่งเป็นชาวไต้หวันว่าบัตรประกันสุขภาพของเหยื่อถูกขโมยไป จากนั้นได้ทำทีโอนสายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอ้างว่าจะมาดูแลในเรื่องนี้ให้ โดยใช้หนังสือราชการปลอมส่งให้เหยื่อดู ทำให้เหยื่อหลงเชื่อและโอนเงินผ่านบัญชีธนาคารของไต้หวัน ให้กับคนร้ายโดยเบื้องต้นคนร้ายกลุ่มนี้ได้ทำการหลอกลวงมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์แล้วที่ไต้หวันกว่า 21 รายรวมความเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันให้ความสำคัญมากโดยใช้ระยะเวลาในการสืบสวนติดตามเป็นระยะเวลานาน เนื่องจากคนร้ายมีความสามารถในการหลบซ่อนและหลอกลวงเหยื่อจำนวนมากมีความเสียหายมูลค่าสูง
เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการสืบสวนจนสามารถควบคุมตัวคนร้ายชาวไต้หวันจำนวน 13 คน ได้ที่บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ภายในตำบลเสม็ด อำเภอเมืองจังหวัดชลบุรี ซึ่งใช้เป็นศูนย์ Call Center พบของกลางที่เป็นอุปกรณ์ใช้ในการกระทำความผิดเช่นโทรศัพท์มือถือ 44 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค 10 เครื่อง เครื่องตรวจสัญญาณอินเตอร์เน็ต 17 เครื่อง หนังสือจิตวิทยาขั้นสูงในการก่ออาชญากรรมฉบับภาษาจีนจำนวน 1 เล่ม ซึ่งทั้ง 13 คน ถือเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อสังคม โดยในวันนี้ ไต้หวันได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไต้หวันจำนวน 5 นายเข้ามาเพื่อประสานงานขอตรวจสอบพยานหลักฐานที่ตรวจยึดไว้ซึ่งจะต้องขยายผลประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เพื่อเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรและควบคุมตัวไว้ที่ห้องกับ สตม.ก่อนที่จะผลักดันส่งกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศต้นทางต่อไป
ผู้สื่อข่าว ปิยะธิดา เพชรดี