จากการลงพื้นที่ดูจุดจับและปรับผู้ที่ขับรถจักรยานยนต์บนทางเท้า ที่แยกรัชดา-ลาดพร้าว หลังกรุงเทพมหานคร หรือ กทม.เพิ่มโทษค่าปรับจาก 1,000 บาท เป็น 2,000 บาท เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ส่วนตัวยังไม่พอใจภาพรวมการทำงาน แต่ได้กำชับในแต่ละเขตให้ทำงานกันอย่างจริงจังและเข้มงวดมากยิ่งขึ้นแล้ว มั่นใจว่าวันนี้เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาจำนวนคนฝ่าฝืนลดลง ขณะที่ภาพรวมการกวดขันผู้ฝ่าฝืนทั้ง 50 เขต จากสถิติที่ผ่านมา 14 วัน ตั้งแต่วันที่1ส.ค.-14 ส.ค. เจ้าหน้าที่เทศกิจจับกุมผู้กระทำผิดได้ จำนวน 489 ราย ว่ากล่าวตักเตือน 10 ราย ดำเนินคดี 396 ราย อยู่ระหว่างดำเนินคดี 79 ราย ปรับเป็นเงิน 710,300 บาท มี 7 เขต ที่ไม่มียอดจับเลย เช่น เขตทุ่งครุ,เขตบางขุนเทียน,เขตหนองแขม,เขตบางแค,เขตบางเขน,เขตยานนาวาและเขตบางคอแหลม ซึ่งมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีจักรยานยนต์ขับบนทางเท้า ทำให้จะลงพื้นที่ไปตรวจตามเขตที่ไม่มีปัญหา เพราะถือเป็นนโยบายของรัฐบาลซึ่งแต่ละเขตต้องให้ความสำคัญ และต้องชี้แจงกรณีที่ไม่มีจับจักรยานยนต์บนทางเท้าด้วย
สำหรับจุดไหน ไม่มีเจ้าหน้าที่ตรวจตรา รองผู้ว่าฯกทม.ได้สั่งการให้เทศกิจทุกเขตตั้งจุดตรวจที่ไม่ต้องเห็นเด่นชัด พยายามหมุนเวียนจุดจับ-ปรับ ในจุดที่ไม่เคยตั้ง เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด
สำหรับการแจ้งเบาะแสคนขับรถบนทางเท้า จะได้ส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินค่าปรับ แต่ยังเป็นปัญหาเพราะประชาชนโทรแจ้งเข้ามากันเยอะ จนทำให้ระบบล่ม แต่ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ปรับระบบให้มีความเสถียรมากยิ่งขึ้นแล้ว พร้อมเตือนอย่าฝ่าฝืนขับรถบนทางเท้าเพื่อความปลอดภัยของตัวเองและประชาชน
ผสข.เบญจภรณ์ ผิวเหลือง