ผลประชุมแก้ภัยแล้ง นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) กล่าวว่า ที่ประชุมได้วางแผนการปรับลดการระบายน้ำจาก 4 เขื่อนหลักในลุ่มเจ้าพระยาแบบขั้นบันได เพื่อสำรองปริมาณน้ำไว้ต้นฤดูแล้งในปี 2562/2563 จำนวน 348 ล้านลูกบาศก์เมตร รวมถึงวางแผนการใช้น้ำจากลุ่มน้ำแม่กลองเพื่อการประปานครหลวงจำนวน 15 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมทั้งพิจารณาวงเงินงบประมาณบูรณาการด้านน้ำ 1.8 แสนล้านบาท หน่วยงานต่างๆรวม 9 หน่วยงานเสนอวงเงินจำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ได้รับงบประมาณบูรณาการด้านน้ำจากคณะกรรมการชุดดังกล่าวในรัฐบาลชุดที่ผ่านมาประมาณ 1.6 แสนกว่าล้านบาท หลังจากนี้ สำนักงบประมาณจะพิจารณาอีกครั้ง อาจถูกปรับลดไปประมาณครึ่งหนึ่งของงบประมาณที่เสนอไป คาดว่างบประมาณบูรณาการน้ำที่จะได้รับการสนับสนุนจริงอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และนายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ(ครม.เศรษฐกิจ) นายสมคิด กล่าวว่า ขณะนี้ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่แรงพอสมควร เพราะไตรมาสที่ 2 เป็นช่วงเลือกตั้งและเห็นได้ชัดว่าการเบิกจ่ายของราชการน้อยมากรวมทั้งการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจต่ำกว่าเป้า และการส่งออกไม่ดีจากปัญหาสงครามการค้าจึงถึงเวลากระตุ้นเศรษฐกิจ นายอุตตม โพสต์ในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ดันมาตรการกระตุ้นเข้าครม.เศรษฐกิจรับมือสงครามการค้าให้รอดูใช้งบ 5 หมื่นล้านบาทหรือไม่ พร้อมระบุว่า เราสามารถทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศเข้มแข็งได้ด้วยตัวเอง เวลานี้เศรษฐกิจโลกกำลังผันผวนอย่างหนักจากกรณีสงครามการค้าทั้งสหรัฐฯ-จีน หรือกรณีญี่ปุ่น-เกาหลีใต้ อีกทั้งประเทศที่มีบทบาททางเศรษฐกิจกับไทยหลายๆ ประเทศ ก็มีปัญหาภายใน สิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งดำเนินการ คือสร้างความเข้มแข็งภายใน และต้องเพิ่มรอบการหมุนของเม็ดเงิน กระจายไปยังกลุ่มต่างๆ ในวงกว้างที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มฐานรากซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ขณะเดียวกัน จะเร่งแก้ปัญหาที่กระทบกับชาวบ้านเฉพาะหน้า โดยเฉพาะเรื่องภัยแล้งและราคาพืชผลการเกษตร
นายสมคิด มอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรมร่วมกับคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ดึงการลงทุนจากบริษัทเป้าหมายที่จะย้ายออกจากจีนให้มาลงทุนในไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง ที่จะย้ายฐานการผลิตเพราะสงครามการค้า เวียดนามได้เปรียบดึงการลงทุนช่วงนี้เพราะมีต้นทุนค่าจ้างต่ำกว่าไทย ซึ่งบีโอไอ ควรใช้กองทุนส่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขัน นายกรัฐมนตรี รับข้อเสนอของเอกชนหลังจากที่คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทย ยื่นข้อเสนอสมุดปกขาว 6 ประเด็น ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการ คือ 1.สร้างความร่วมมือ ภาครัฐและเอกชน เช่น คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) 2.เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันภาคเอกชน เช่น เอสเอ็มอี 3.พัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ เช่น ถ่ายโอนงานบริการภาครัฐบางส่วนให้เอกชน 4.ขับเคลื่อนโครงการสำคัญ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) รถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน 5.เสริมสร้างธรรมาภิบาล ความรับผิดชอบต่อสังคม เสนอให้รัฐพิจารณายกเลิกกฎหมายที่ไม่จำเป็น 6.ยกระดับทักษะ ความรู้ และคุณภาพชีวิตทรัพยากรมนุษย์ เช่น การสร้างแรงจูงใจในการยกระดับฝีมือของบุคคลากรทุกระดับ
ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) หรือ BBL ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ประเภทเบิกเกินบัญชี(MOR) และดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายย่อยชั้นดี(MRR) ลงร้อยละ 0.25 ตามดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับลดไป เพื่อช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี และแบ่งเบาภาระให้กับลูกค้ารายย่อย ขณะที่ ในสัปดาห์หน้า น่าจะมีความชัดเจนจากแบงก์รัฐ
ดาวโจนส์ ลดลง 800.49 จุด ปิดที่ 25,479.42 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 85.72 จุด ปิดที่ 2,840.60 จุด แนสแดค ลดลง 242.42 จุด ปิดที่ 7,773.94 จุด หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปีดีดตัวเหนืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี รวมถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนที่อ่อนแอสุดในรอบ 17 ปี และข้อมูลจากเยอรมนี ชี้ว่าเศรษฐกิจหดตัวในช่วงไตรมาส 2 กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ และดันราคาทองคำปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2013 โดยราคาทองคำสัญญาโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 13.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,527.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาน้ำมันปิดลบเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน หลังข้อมูลรัฐบาลสหรัฐฯ เผยให้เห็นว่าคลังปิโตรเลียมของประเทศเพิ่มขึ้น 2 สัปดาห์ติดต่อกัน ขณะที่ความเสี่ยงเศรษฐกิจของสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยทำให้เกิดความกังวลความต้องการด้านพลังงาน สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.87 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 59.48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
CR:ภาพจากรัฐบาลไทย