กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานจากอิทธิพลมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ตั้งแต่วันที่ 31 ก.ค.2562 ถึงปัจจุบัน ทำให้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก ดินสไลด์ และวาตภัย 13 จังหวัด ได้แก่ พะเยา น่าน เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร เลย ตราด จันทบุรี ระนอง ชุมพร และสุราษฎร์ธานี รวม 54 อำเภอ 163 ตำบล 674 หมู่บ้าน บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 3,105 หลัง ผู้เสียชีวิต 4 ศพ บาดเจ็บ 1 คน เรือประมงขนาดเล็ก 12 ลำ สะพาน 8 แห่ง ถนน 15 สาย ฝาย 2 แห่ง นาข้าว 442 ไร่ พืชไร่ 206 ไร่ พืชสวน 50 ไร่ ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด และยังคงมีสถานการณ์ 1 จังหวัด ได้แก่ ตราด เกิดฝนตกหนัก ทำให้น้ำไหลหลากในพื้นที่อำเภอเมืองตราด บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 5 หลัง ปัจจุบันระดับน้ำมีแนวโน้มลดลง
สถานการณ์ไฟป่าพรุควนเคร็ง จ.นครศรีธรรมราช ที่ลุกไหม้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค.ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงทำงานอย่างหนักเพื่อเร่งดับไฟป่า โดยจุดที่ลุกไหม้รุนแรงมากสุด คือ ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ ล่าสุด วันนี้ กองทัพภาคที่ 4 ส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าสนับสนุนตักน้ำจากคลองชะอวดแพรกเมือง เพื่อสกัดในพื้นที่ที่ชุดภาคพื้นเข้าถึงลำบากและเป็นจุดที่ยังมีไฟลุกไหม้อย่างต่อเนื่อง แนวไฟได้ขยายวงอย่างต่อเนื่องและลุกลามเข้าเขต ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ อีกครั้ง ขณะเดียวกันพื้นที่ ต.เขาพระบาท และ ต.การะเกด ได้เกิดเปลวไฟปะทุขึ้นมาเช่นกัน โดยกำลังทหารและส่วนต่างๆ ได้ฉีดน้ำสกัดตลอดทั้งวันแต่ยังไม่สามารถควบคุมได้ เนื่องจากกระแสลมผันผวนและการเข้าถึงพื้นที่เป็นไปอย่างยากลำบาก ล่าสุดไฟได้ลุกลามเข้าในเขตพื้นที่บ้านเนินธัมมัง ม.5 ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ โดยมีกำลังพลจากมณฑลทหารบกที่ 41 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันไฟป่าพรุควนเคร็งและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำรถดับเพลิงเข้าฉีดน้ำสกัดให้อยู่ในวงจำกัด พร้อมทั้งตรึงกำลังเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์ไฟไหม้ป่าพรุควนเคร็งต่อเนื่องมาหลายวัน ทำให้พื้นที่ป่าพรุและสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านได้รับความเสียหายไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5,000 ไร่ โดยเฉพาะพื้นที่ ต.การะเกด และ ต.เขาพระบาท อ.เชียรใหญ่ ได้รับความเสียหายมากที่สุด
นายถาวรวัฒน์ คงแก้ว รองผู้ว่าฯ นครศรีธรรมราช ได้ประกาศเขตพื้นที่ภัยพิบัติเพิ่มเติมครอบคลุมเขตพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งทั้ง 5 อำเภอประกอบด้วย อ.หัวไทร อ.เชียรใหญ่ อ.ชะอวด อ.เฉลิมพระเกียรติ และอ.ร่อนพิบูลย์ นอกจากนี้กรมชลประทาน ได้ส่งเครื่องจักรกลหนักเข้าวางเครื่องสูบน้ำตามแนวคลองชะอวดแพรกเมือง เพื่อสูบน้ำเข้าพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง พร้อมทั้งวางแผนเข้าควบคุมไฟไหม้ ที่ยังคงลุกลามไปตามจุดต่างๆ แม้จะมีการสกัดมาอย่างต่อเนื่อง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องการลดอุบัติเหตุทางถนนว่าเป็นปัญหาสำคัญ ทำให้เกิดการบาดเจ็บและสูญเสีย เมื่อปี 2561 มีคนไทยกว่า 200 คนต้องเสียชีวิต และมีผู้พิการรายใหม่ดีกว่า 9,000 คน ส่งผลกระทบต่อผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวมกว่า 200 ล้านบาทต่อปี อุบัติเหตุทางถนนเหล่านี้สามารถป้องกัน และลดความสูญเสียได้ รัฐบาลจึงกำหนดให้การสร้างความปลอดภัยทางถนนเป็นนโยบายสำคัญ ทำให้สำเร็จผลปี 2554- 2563 ปี กำหนดให้เป็นทศวรรษแห่งความปลอดภัยบนท้องถนนของประเทศไทย ภายใต้กรอบปฏิญญามอสโก เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ให้ต่ำกว่าร้อยละ 50 ภายในปี 2563 พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า การดำเนินงานด้านความปลอดภัยทางถนนที่ผ่านมายังประสบปัญหาและอุปสรรคในการลดการสูญเสียจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเร่งรัดปรับปรุงและพัฒนา และกำหนดแนวทางมาตรการใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ให้มากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้จะเน้นให้ความสำคัญกับกลุ่มคนเดินเท้า ขับขี่จักรยานยนต์และจักรยานของผู้ใช้รถโดยสารสาธารณะภายใต้แนวคิด เดิน ขี่ ขับ ไป-กลับ ปลอดภัย
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยความคืบหน้าการให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยที่ถูกนายจ้างลอยแพในน่านน้ำประเทศโซมาเลียว่า กระทรวงการต่างประเทศให้ความสําคัญกับการให้ความช่วยเหลือคุ้มครองคนไทยและติดตามกรณีนี้อย่างใกล้ชิด โดยใช้ช่องทางทางการทูตรวมทั้งเครือข่ายองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน(IOM) ช่วยเหลือลูกเรือประมงไทย เมื่อได้รับการติดต่อจากลูกเรือประมงว่าต้องการความช่วยเหลือและจะเดินทางกลับประเทศไทย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ซึ่งมีเขตอาณารับผิดชอบกรณีดังกล่าวประสานงานและติดต่อกับกระทรวงการต่างประเทศโซมาเลียรวมทั้งเอกอัครราชทูตโซมาเลียประจําเคนยา เพื่อขอความร่วมมือในการให้ความช่วยเหลือ ซึ่งทางการโซมาเลียให้ความช่วยเหลือด้วยดี และพร้อมอํานวยความสะดวกให้ลูกเรือเดินทางกลับไทย ขณะนี้ ได้จองเที่ยวบินให้ลูกเรือประมงเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว และน่าจะเดินทางกลับประเทศไทยภายในสัปดาห์นี้ ขอให้ครอบครัวลูกเรือประมงมั่นใจได้
สำนักข่าวเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือ รายงานว่า นายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ร่วมชมการยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ครั้งล่าสุด และกล่าวว่า คือคำเตือนไปถึงสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ที่จัดการซ้อมรบร่วมอยู่ในเวลานี้ โดยเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธนำวิถีพิสัยใกล้ 2 ลูก เมื่อเวลาประมาณ 05.24 น. และ 05.36 น. ของวันที่ 6 สิงหาคม ตามเวลาท้องถิ่น จากฐานยิงจังหวัดฮวางแฮใต้ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ หลังจากที่เมื่อวันจันทร์ สหรัฐฯกับเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบผ่านเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพื่อทดสอบความสามารถในการควบคุมภารกิจในช่วงเวลาที่มีสงคราม แม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีคำเตือนหลายครั้งให้ยุติการซ้อมรบที่มีเป้าหมายคือการโจมตีเกาหลีเหนือ ทั้งยังสร้างความสับสนต่อการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์ เกาหลีเหนือจะไม่ยิงขีปนาวุธในระหว่างที่กำลังมีการซ้อมรบ ครั้งนี้เป็นครั้งแรก แต่เป็นการยิงครั้งที่ 4 ในรอบไม่ถึง 2 สัปดาห์ นายคิม สังเกตการณ์การฝึกซ้อมยิงและประสิทธิภาพของขีปนาวุธนำวิถีชนิดใหม่ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง เป็นการส่งสัญญาณด้วยว่า เกาหลีเหนือ หมดอารมณ์ ที่จะพบหารือกับสหรัฐฯ ด้านนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว เตือนเกาหลีเหนือให้ยึดมั่นตามข้อตกลงสิงคโปร์ซัมมิต ซึ่งเป็นการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำสหรัฐฯกับเกาหลีเหนือ ที่หนึ่งในข้อตกลงคือการไม่ทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ( ไอซีบีเอ็ม ) แต่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือ ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันควันว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือจะเดินหน้าพัฒนาโครงการอาวุธ ตราบใดที่รัฐบาลสหรัฐฯรัฐบาลเกาหลีเหนือยังคงละเมิดข้อตกลง นั่นคือการซ้อมรบ
แฟ้มภาพ FB รอบรั้วชลประทาน
จีนรับมือสงครามการค้า ดึงตู้คอนเทนเนอร์ไปเกือบหมด-ค่าระวางเรือไปสหรัฐเพิ่ม
...
ผู้ส่งออกข้าวไทย เจรจาผู้นำเข้าสหรัฐ ขอให้รับส่วนต่างภาษีนำเข้า
...
ไทยเจรจาการค้ากับสหรัฐแล้ว คาดสหรัฐ ขยายเวลา เก็บภาษีรายประเทศ
...
ข่าวทั้งหมด
