ในวันนี้มีการประชุมที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อติดตามคดีเหตุระเบิดหลายจุดในกรุงเทพฯ หลังมีภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยขณะก่อเหตุ ซึ่งยังต้องรอผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันตัวตน ที่จะนำไปเปรียบเทียบกับรายชื่อบุคคลที่อยู่ข่ายเฝ้าระวังกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ เนื่องจากแนวทางการสืบสวนพบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่คนรุ่นใหม่ทั้งหมด บางคนมีรายชื่ออยู่ในกลุ่มเฝ้าระวังด้วย เมื่อได้หลักฐานต่าง ๆ ครบแล้วถึงจะไปขอศาลอนุมัติหมายจับ เชื่อว่าอีก 2-3 วันนี้ เรื่องต่าง ๆ จะมีความชัดเจนขึ้น
ส่วนความคืบหน้าการขยายผลผู้ร่วมก่อเหตุ ตำรวจพบข้อมูล ทั้งผู้ต้องหาที่ลงมือก่อเหตุ ผู้ให้การสนับสนุน ไปจนถึงกลุ่มนายทุนในต่างประเทศ มีคนที่เกี่ยวข้องไม่ต่ำกว่า 20 คน ซึ่งข้อมูลส่วนนี้ ต้องนำไปเปรียบเทียบกับข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงที่ทำงานในพื้นที่ภาคใต้ด้วยว่า มีใครถูกจับกุมหลังเกิดเหตุในกรุงเทพฯ หรือไม่ เพราะเชื่อว่าเหตุ 2 พื้นที่มีความเชื่อมโยงกัน ทั้งสอดคล้องกับข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกประเทศผ่านด่านในจังหวัดนราธิวาส ของนายลูไซและนายวิลดัน ผู้ต้องสงสัยวางระเบิดด้านหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนที่ทั้ง 2 คนจะลงมือก่อเหตุด้วย
สำหรับการทำงานของตำรวจ ตอนนี้เน้นไปที่รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับนายลูไซ และนายวิลดัน เช่น เสื้อผ้าชุดที่สวมใส่และใช้เปลี่ยนเพื่ออำพรางตัวเอง และพยานแวดล้อมมาประกอบสำนวนการสอบสวน เพื่อให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน ตามอำนาจในการควบคุมตัว ซึ่งตำรวจสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะชี้แจงได้ ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เริ่มเข้ามาก่อเหตุได้อย่างไร มีสาเหตุอะไร รวมถึงผู้ที่ให้การช่วยเหลือทั้งทางตรงและทางอ้อม
ส่วนเป้าหมายการลงมือในครั้งนี้ ยังไม่ตัดประเด็นใดประเด็นทิ้ง แต่วัตถุประสงค์หลักเชื่อว่า เป็นการสร้างสถานการณ์ให้เห็นว่า รัฐบาลยังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ
...
ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ
จีนรับมือสงครามการค้า ดึงตู้คอนเทนเนอร์ไปเกือบหมด-ค่าระวางเรือไปสหรัฐเพิ่ม
ผู้ส่งออกข้าวไทย เจรจาผู้นำเข้าสหรัฐ ขอให้รับส่วนต่างภาษีนำเข้า
ไทยเจรจาการค้ากับสหรัฐแล้ว คาดสหรัฐ ขยายเวลา เก็บภาษีรายประเทศ
ข่าวทั้งหมด
