หลังเกิดเหตุระเบิดในบริเวณแหล่งชุมชนและพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและพื้นที่ปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน เพื่อให้การรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ สอดรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้กำหนดมาตรการ และกำชับสั่งการให้ทุกหน่วยถือปฏิบัติ คือ มาตรการป้องกันเหตุ ได้แก่ การเพิ่มความเข้มในการตรวจตราสถานที่สำคัญของทางราชการ เอกชน และสถานที่ เชิงสัญลักษณ์ ระบบขนส่งมวลชน สถานีขนส่ง ท่าอากาศยาน ห้างสรรพสินค้า สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร สถานบริการที่มีนักท่องเที่ยวมาใช้บริการจำนวนมาก สำรวจจุดเสี่ยง จุดล่อแหลม ในพื้นที่รับผิดชอบและกำหนดเป็นจุดเฝ้าระวัง อีกทั้งประสานแนะนำเจ้าของพื้นที่ในการติดตั้งกล้องวงจรปิดในการป้องกันเหตุ รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ให้สามารถเชื่อมโยงทางยุทธวิธีใช้งานได้ตลอดเวลา
ให้ทุกสถานีตำรวจเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ออกสืบสวน หาข่าวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่เข้ามาอาศัยในพื้นที่รับผิดชอบ ตรวจสอบบุคคล ต้องสงสัย รวมถึงการตรวจสอบร้านจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ที่สามารถนำมาก่อเหตุได้
ให้ตั้งด่าน และจุดตรวจความมั่นคง ในเส้นทางต่างๆ ที่อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ หรือก่อเหตุร้ายในลักษณะต่างๆ โดยเน้นตรวจค้นบุคคลและยานพาหนะ เมื่อพบการกระทำความผิดให้ดำเนินการตามกฎหมายทุกกรณี
นอกจากนั้นยังให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรโดยเฉพาะบุคคลเฝ้าระวังหรือบุคคลต้องห้ามในบัญชีเป้าหมาย รวมทั้งตรวจสอบยานพาหนะบริเวณด่านชายแดนอย่างจริงจัง
ผบ.ตร. ยังกำชับให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง กำหนดมาตรการในการรักษาความปลอดภัยสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุล และสถานที่สำคัญต่างๆ ของประเทศที่มาประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
ด้านมาตรการสืบสวน ให้บูรณาการและประสานข้อมูลด้านการข่าวกับหน่วยงานด้านความมั่นคง และฝ่ายสืบสวน อาทิ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
เร่งรัดสืบสวนหาข่าว การตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ข้อมูลบุคคล พยานหลักฐานต่างๆ โดยประสานข้อมูลการสืบสวน พยานหลักฐานต่างๆ กับพนักงานสอบสวน เพื่อเชื่อมโยงพยานหลักฐานกับการสอบสวนดำเนินคดี
มาตรการเตรียมความพร้อม ให้ข้าราชการตำรวจทุกหน่วย รวมทั้งชุดตรวจพิสูจน์ เก็บกู้ และทำลายวัตถุระเบิดที่ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ เตรียมความพร้อมและสามารถสนับสนุนการปฏิบัติได้เมื่อมีเหตุหรือได้รับการร้องขอ
ทั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ลงไปกำกับดูแลการปฏิบัติของผู้ใต้บังคับบัญชาโดยใกล้ชิด โดยให้มีการประชาสัมพันธ์ แจ้งเตือน ทำความเข้าใจและแสวงหาความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนในการแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับบุคคล วัตถุต้องสงสัย และการสังเกต จดจำ
พล.ต.ท. ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ/โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฝากประชาสัมพันธ์มายังพี่น้องประชาชน ดังนี้
• หลักการสังเกตวัตถุต้องสงสัย “๔ ไม่” ไม่เคยเห็น ไม่เป็นของใคร ไม่ใช่ที่อยู่ และดูไม่เรียบร้อย
ส่วนเมื่อพบวัตถุต้องสงสัยให้โทรแจ้ง ๑๙๑ หรือ ๑๕๙๙ ห้ามแตะต้อง ตั้งสติรีบออกมาจากพื้นที่ หาที่กำบัง หากมีผู้บาดเจ็บ โทรแจ้ง สายด่วน ๑๖๖๙ ตลอด ๒๔ ชั่วโมง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอยืนยันว่าพร้อมที่จะรับใช้พี่น้องประชาชนและเป็น “องค์กรบังคับใช้กฎหมาย ที่ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา”