สรุปข่าว19.30น.วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562

สรุปข่าว19.30น.วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม 2562

+++การซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเทขายออกมาตลอดทั้งวัน เนื่องจากมีปัจจัยลบในเรื่องการลดดอกเบี้ยของเฟดที่อาจไม่ได้ปรับลดอีกในเร็ว ๆ นี้ และข่าวที่ทางประธานาธิบดีสหรัฐฯไม่พอใจผลการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีนในรอบนี้เนื่องจากไม่มีความคืบหน้าจึงเตรียมปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีนส่วนที่ยังไม่ได้ปรับขึ้นภาษีคืออีก3แสนล้านเหรียญในอัตราร้อยละ10 คาดมีผล1ก.ย.นี้ส่งผลให้ตลาดกลับมากังวลอีกครั้ง ส่วนปัจจัยในประเทศจากเหตุการณ์ระเบิดในพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งผู้ก่อการร้ายหวังผลให้เกิดความวุ่นวาย แต่มองว่าไม่น่ามีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน เนื่องจากเป็นเพียงเหตุการณ์ระยะสั้น ฝ่ายความมั่นคงจะสามารถดูแลรับมือได้ ส่งผลให้ตลาดฯปิดที่ระดับ 1,684.71 จุด ลดลง15.04 จุด มูลค่าการซื้อขาย 82,045.40  ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงในวันนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.นี้ ดัชนีนิกเกอิ ปิดร่วงลง 453.83 จุด ปิดที่ 21,087.16 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัว 647.12 จุด ที่ 26,918.58 จุด

+++หลังการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างจีนและสหรัฐฯในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันพุธ ไม่มีความคืบหน้าที่จะแก้ไขปัญหาพิพาทการค้า รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯทวีตข้อความเมื่อวานว่า สหรัฐฯจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีนรอบใหม่ร้อยละ 10 ครอบคลุมสินค้ามูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายนนี้

+++ด้านนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมความมั่นคงระดับภูมิภาคของกลุ่มอาเซียนในกรุงเทพฯในช่วงนี้ แสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า การที่สหรัฐฯขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมเช่นนี้ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาพิพาททางเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐฯ

+++ผลเหตุระเบิดป่วนกรุงหลายจุด นายชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)ยอมรับว่า รู้สึกเป็นกังวลจะกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างหนัก โดยในส่วนสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวฯ ได้ตั้งวอร์รูมเพื่อติดตามสถานการณ์และผลกระทบในอนาคต และอยากให้จัดการด่วนที่สุดในการจับคนร้ายให้ได้ เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นน้อยมาก รัฐบาลชุดใหม่น่าจะมีมาตรการใหม่ๆ ออกมากระตุ้น สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว เชื่อว่าเร็วๆ นี้รัฐมนตรีท่องเที่ยวคนใหม่จะออกมาตรการออกมา พร้อมเสนอว่า ภาครัฐควรทำโรดโชว์ไปยังตลาดใหม่ เช่นประเทศจีน ควรเจาะตลาดในมณฑลใหม่ๆ ให้เดินทางมาไทยโดยมากับทัวร์เป็นครั้งแรก จนเดินทางมาเองในภายหลัง รวมถึงเจาะตลาดอาเซียนอย่างจริงจัง เนื่องจากมีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นจำนวนมาก และจะเสนอให้มีการลดราคาสินค้าทั่วประเทศ เหมือนฮ่องกงลดทั้งเกาะ โดยจะร่วมกับห้างต่างๆ เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว”

+++ส่วนนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ระบุว่า  สถานการณ์ในขณะนี้ทำให้มีสิ่งที่ต้องติดตามต่อไป คือ จะมีประเทศใดออกประกาศเตือนการเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มี แต่ถ้ามีจะกระทบต่อการเดินทางมาประเทศไทยของนักท่องเที่ยวทันที

+++นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน และการเหมืองแร่(กพร.) ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการเหมืองแร่ควบคุมดูแลการใช้วัตถุระเบิดอย่างเข้มงวด ให้มีการใช้วัตถุระเบิดเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาต เป็นไปตามพระราชบัญญัติแร่ พ.ศ. 2560 และกฎหมายเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากเกิดการกระทำผิดตามกฎหมายแร่ อาจมีโทษถึงขั้นเพิกถอนประทานบัตร

+++นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า กระทรวงดีอี อยู่ใกล้พื้นที่เกิดเหตุซึ่งมีระเบิดเกิดขึ้น 3 ครั้ง ตั้งแต่เวลา 06.00–09.00 น. ก่อนที่จะมีการตรวจพบเจออีก 3 ลูก เบื้องต้นไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก เพราะการก่อเหตุทำลายความเชื่อมั่นและต้องการทำให้เกิดความปั่นป่วน แต่ขอให้รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหาสาเหตุที่ชัดเจนก่อน ส่วน กระทรวงดีอี จะตรวจสอบการเผยแพร่ข่าว กระบวนการใช้สื่อโซเชียลมีเดียทุกรูปแบบ พร้อมเฝ้าระวังและติดตามการเผยแพร่ข่าวที่เกินความจริงที่อาจทำให้สังคมตื่นตระหนก

+++พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบการเข้า-ออกของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของเจ้าหน้าที่และบุคคลภายนอกที่เข้ามาในพื้นที่ของดีเอสไอ และบริเวณรอบนอกอย่างเข้มงวด เนื่องจากเป็นพื้นที่เปิดและโล่ง แม้ว่าดีเอสไอจะติดตั้งกล้องวงจรปิดทั้งภายในอาคารและภายนอกอาคารก็ตาม แต่ก็ต้องเฝ้าระวังเพราะคนร้ายอาจใช้เป็นเส้นทางผ่านเข้าไปก่อเหตุได้ นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาที่อาจจะมีการเข้ามาก่อเหตุแล้ว หากพบเบาะแสข้อมูลก็จะส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการต่อ

+++นางอังคณา นีละไพจิตร นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน และอดีตสมาชิกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวหลังได้รับรางวัลแมกไซไซ ประจำปี 2562 จากมูลนิธิรางวัลรามอน แมกไซไซว่า ยอมรับว่าตกใจ เพราะเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีคนโทรศัพท์เข้ามาถามตนว่าจะรังเกียจไหมถ้าจะเสนอชื่อเพื่อรับรางวัล แต่ก็ไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับรางวัล รู้สึกดีใจที่ได้รับรางวัลในปีนี้ ดีใจที่มีคนเห็นคุณค่าของเรา ในขณะที่องค์กรที่เราจากมานั้น ไม่เห็นคุณค่าเรา แต่องค์กรระดับภูมิภาคเขาเห็นคุณค่าและผลงานของเรา รู้สึกดีใจมาก ซึ่งรางวัลนี้จะเป็นกำลังใจในการทำงานต่อไป  ในปี 2562 นี้ ยังมีผู้ที่ได้รับรางวัลแมกไซไซ อีก 4 คน ประกอบด้วย นายเรย์มุนโด ปูจันเต คายับยับ นักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ ในฐานะผู้มีพรสวรรค์โดยธรรมชาติผู้รังสรรค์พลังที่เป็นเอกภาพให้กับดนตรีในฟิลิปปินส์ , นายคิม จอง คี นักเคลื่อนไหวผู้สกัดกั้นกระแสความรุนแรงในหมู่เยาวชนในเกาหลีใต้ , นายโก สเว วิน ผู้สื่อข่าวชาวเมียนมา และ นายราวิศ กุมาร ผู้สื่อข่าวชาวอินเดีย