การป้องกันและปราบปรามการแข่งขันรถยนต์และจักรยานยนต์ในทาง หรือ แข่งรถซิ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำหนด 4 มาตรการแก้ไขปัญหาเด็กแว้นอย่างเข้มงวด ทั้งมาตรการก่อนเกิดเหตุ มาตรการปราบปรามขณะเกิดเหตุ มาตรการสอบสวนขยายผล และมาตรการเฝ้าระวังและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยก่อนที่จะนำมาตรการเหล่านี้มาใช้ เฉพาะเดือนมิถุนายนเพียงเดือนเดียว กรุงเทพมหานคร มีการร้องเรียนผ่านหมายเลขโทรศัพท์191 จำนวน 406 ครั้ง แต่หลังจากใช้มาตรการเข้ามาแก้ปัญหาทำให้จำนวนการร้องเรียนเหลือเพียง 55 ครั้ง คิดเป็นร้อยละ 86 ชี้ให้เห็นว่ามาตรการนี้ได้ผล พร้อมกำชับภายใน 4-5 เดือนต่อจากนี้ไป ปัญหาดังกล่าวจะลดลงหรือหมดไป หากตำรวจปล่อยปละละเลย ผู้กำกับการสน.และผู้บังคับการในพื้นที่จะต้องรับผิดชอบ
ด้านพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัส ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่า ปัจจุบันการรวมตัวการแข่งรถในลักษณะกลุ่มใหญ่นั้น มีน้อยลงมาก ส่วนหนึ่งเกิดจากวัยรุ่นมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไปใช้การรวมกลุ่มย่อยและฉวยโอกาสในจังหวะที่ถนนว่างแข่งรถแทนการปิดถนน เป็นการยากที่ตำรวจจะติดตามจับกุม แต่จากการใช้มาตรการถ่ายคลิปบันทึกภาพการกระทำความผิดก่อนเข้าไปติดตามจับกุมมาดำเนินคดี ก็ทำให้ปัญหาการแข่งรถลดน้อยลง
ส่วนความปลอดภัยบนท้องถนนโดยเฉพาะทางม้าลาย ขณะนี้จะมีการปรับปรุงทางม้าลายให้เหมาะสมกับสภาพแต่ละพื้นที่ และเตรียมติดตั้งกล้อง CCTV เพิ่มเติม และประชาสัมพันธ์กระตุ้นให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนน หรือให้คนเดินเท้าปฏิบัติตามกฎจราจร พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และมีแนวคิดตัดคะแนนผู้ขับขี่ไม่หยุดให้คนข้ามทางม้าลาย ซึ่งจะมีการประชุมติดตามผลต่อเนื่องทุกเดือนด้วย
สำหรับผลการจับกุมตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน ถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมข้อหา ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย 464 ราย ข้อหาสนับสนุนการแข่งรถในทาง 163 ราย และตรวจค้นร้านจำหน่ายอะไหล่ 8,505 ราย ดำเนินคดี 42 ราย รวมถึงดำเนินคดีตามพ.ร.บ. จราจรทางบกและพ.ร.บ.รถยนต์ความผิดอื่นๆอีก 75,315 ราย ดำเนินคดีกับแอดมิน เพจ เชิญชวนหรือนัดหมาย 14 ราย ตรวจยึดรถยนต์ 689 คัน จักรยานยนต์ 24,751 คัน ดำเนินคดีตามพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กกับผู้ปกครอง 28 ราย ตักเตือนและทำทัณฑ์บนกับผู้ปกครอง 4,062 ราย และ ทำประวัติผู้กระทำความผิดและมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะแข่งรถในทาง 14,827 ราย