หลังจากที่รัฐบาล ประกาศขอความร่วมมือห้ามปลูกข้าวในช่วงฤดูนาปรังตลอดฤดูแล้งปีนี้ เนื่องจากมีปริมาณน้ำในเขื่อนที่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการปลูกข้าว และได้มีโครงการช่วยเหลือ ด้วยการสนับสนุนในการสร้างอาชีพแก่ชาวนา ให้มาขุดลอกคูคลองในพื้นที่แทน นายอภิชัย โตดิลกเวช ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีเกษตรกรปลูกข้าวทั้งหมด 270,000กว่าครัวเรือน ซึ่งขณะนี้ก็มีเกษตรกรจำนวนมากที่หยุดการปลูกข้าวในช่วงฤดูนาปรังแล้ว แต่ก็มีชาวนาส่วนน้อยที่มีการดำเนินการปลูกข้าวในช่วงฤดูนาปรัง นี้ เนื่องจากพื้นที่นาเหล่านั้นอยู่ใกล้กับริมแม่น้ำป่าสัก จึงทำให้ชาวนาลองที่จะเสี่ยงปลูกข้าวนาปรัง แต่หน่วยงานเกษตรของจังหวัด แจ้งเตือนเกษตรกรแล้ว ว่าหากได้รับความเสียหายจากการปลูกข้าวนาปรังนี้รัฐบาล จะไม่เยียวยาช่วยเหลือ ซึ่งชาวบ้านก็รับทราบแต่ก็ยังมีการฝืนที่จะปลูกข้าวอยู่ ส่วนโครงการเยียวยาเกษตรกรที่งดปลูกข้าวนาปรังและสนับสนุนด้วยการจัดโครงการสร้างอาชีพแก่ชาวนาให้มาขุดลอกคูคลอง ในพื้นที่โดยให้ค่าตอบแทนวันละ300 ในระยะเวลาสัญญาจ้างงาน 3เดือน ขณะนี้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ยังไม่ได้เปิดขึ้นทะเบียนชาวนาที่สนใจจะมาขุดลอกคูคลอง แต่ก็มีเกษตรกรชาวนาบางส่วนที่เริ่มทราบข่าวแล้วได้มีการมาแจ้งความจำนงแก่เกษตรจังหวัดที่จะขอเข้าร่วมโครงการดังกล่าวกว่าร้อยละ 30 จากเกษตรกรที่ปลูกข้าวทั้งหมด 270,000ครัวเรือน โดยขณะนี้ขั้นตอนของทางจังหวัดกำลังอยู่ในช่วงของการสำรวจคูคลองที่จะให้มีการดำเนินการขุดลอก เพื่อที่จะทำให้ได้ประสิทธิภาพหลังการดำเนินการให้มากที่สุด ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการขึ้นทำเบียนสำหรับชาวนาที่สนใจจะเข้าร่วมโครงการได้อีกไม่นาน
วิรวินท์