การเมืองวันนี้ติดตามการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยว่า ตอนนี้ถึงเวลาเดินหน้าการทำงาน โดยจะนำนโยบายของรัฐบาลและความเห็นของฝ่ายค้านสรุปเป็นนโยบายในด้านต่างๆ และเห็นว่ามีหลายเรื่องที่ไม่ได้เป็นงานของกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง ที่จะต้องมีการทำงานร่วมกันกับกระทรวงอื่น ๆ ด้วย
ส่วนในเรื่องเศรษฐกิจ นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลก และคาดการณ์ว่าการส่งออกไทยปี 2562 จะติดลบครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกซึ่งในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การส่งออกของอินโดนีเซียติดลบร้อยละ 9.5 เกาหลีใต้ติดลบร้อยละ 7.4 และญี่ปุ่นติดลบร้อยละ 6.2 สำหรับปัจจัยเสี่ยงของการส่งออกไทยครึ่งปีหลัง นอกจากสงครามการค้าแล้ว ยังมีค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องจนแตะระดับแข็งค่าที่สุดในรอบ 6 ปีในกรอบ 30 - 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าหมวดยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาง มันสำปะหลัง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน จะทำให้ค่าแรงของไทยสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และบรูไน โดยค่าจ้างที่เปลี่ยนแปลงไปร้อยละ 1 จะส่งผลกระทบให้การส่งออกลดลงร้อยละ 0.06 การขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทจะเท่ากับการขึ้นค่าจ้างประมาณร้อยละ 30 ส่งผลกระทบให้การส่งออกลดลงร้อยละ 1.8 หรือมีมูลค่าประมาณ 4,524 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
กรมการขนส่งทางบกเตรียมออกมาตรการควบคุมความปลอดภัย การใช้จักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือบิ๊กไบค์ นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า กรมการขนส่งทางบกกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาออกกฎกระทรวงฯ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 6 เดือนจะออกประกาศได้ โดยมีสาระสำคัญคือการกำหนดให้ผู้จำหน่ายรถต้องจัดอบรม และออกใบรับรองการผ่านขั้นตอนการอบรมให้ผู้ซื้อ เพื่อให้ผู้ใช้รถเข้าใจและชำนาญการใช้งาน
สำหรับยอดจดทะเบียนบิ๊กไบค์ จากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกปลายปี 2561 พบมียอดจดทะเบียน 164,878 คัน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วตามทิศทางการตลาดและความนิยมของผู้ใช้ โดยต้นปี 2562 พบมียอดจะทะเบียน 177,195 คัน และประเมินว่าปลายปี 2562 จะมียอดจดทะเบียนเกือบ 200,000 คัน
ที่บราซิล เกิดเหตุรุนแรงขึ้นเมื่อนักโทษจากกลุ่มอาชญากรรม 2 กลุ่ม ปะทะกันอย่างรุนแรงภายในเรือนจำเมืองอัลตามิรา รัฐปารา อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งยังมีเจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คนถูกจับเป็นตัวประกันและมีการวางเพลิง จากนั้นหน่วยคอมมานโดก็เข้ามาควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ผลการตรวจสอบพบว่ามีนักโทษเสียชีวิต 57 คน ในจำนวนนี้ 16 คนถูกฆ่าตัดคอ ส่วนใหญ่เสียชีวิตเพราะสำลักควัน
เรือนจำในบราซิลมีปัญหาความแออัด และมักเกิดเหตุจลาจลขึ้นบ่อย เพราะมีนักโทษเพิ่มขึ้นตลอดเวลา โดยที่เรือนจำอัลตามิรา ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อรับนักโทษ 163 คน แต่ปัจจุบันมีนักโทษถึง 343 คน
และที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกงเช้านี้ กลุ่มผู้ประท้วงจำนวนหลายร้อยคนบุกเข้าไปในสถานีรถไฟใต้ดินและพยายามกีดขวางการเดินรถ สร้างความวุ่นวายแก่ผู้โดยสารที่เดินทางในช่วงเวลาเร่งด่วน และทำให้การชุมนุมประท้วงที่เริ่มจากการคัดค้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ลุกลามไปมากขึ้น ทั้งยังเกิดขึ้นแทบจะทุกวัน และไม่มีการแจ้งล่วงหน้า ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและการดำเนินชีวิต ซึ่งทำให้ประชาชนหลายคนไม่พอใจผู้ประท้วง
...
ภาพจากทำเนียบรัฐบาล