*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้เวลา07.30น.*

06 พฤศจิกายน 2557, 07:46น.


+++วันนี้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)เตรียมนำญัตติการถอดถอนนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา เข้าสู่การพิจารณาว่าจะมีอำนาจถอดถอนได้หรือไม่ จากกรณีแก้ไขรัฐธรรมนูญปี 2550 ประเด็นที่มาของ ส.ว.ไว้พิจารณาหรือไม่ หลังจากที่ประชุมได้มีมติเมื่อวันที่ 17 ต.ค. ให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน เนื่องจาก สนช.หลายคนยังไม่ได้ศึกษาสำนวนถอดถอน  มีรายงานระบุว่า สนช.อดีตกลุ่ม 40 ส.ว. กับ สนช.สายนักกฎหมายบางส่วน จะยืนยันความเห็นเดิม สนช.มีอำนาจพิจารณาสำนวนดังกล่าว แต่ สนช.สายทหารและสายพลเรือนบางส่วน เสียงส่วนใหญ่ของที่ประชุมจะลงมติไม่รับทั้ง 2 สำนวนไว้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นความผิดตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ถูกยกเลิกไปแล้ว ดังนั้น สนช.จึงไม่มีอำนาจพิจารณาเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ด้วยเหตุผลของการสร้างบรรยากาศทางการเมือง ตามโรดแมปในการสร้างความปรองดองเป็นวาระแห่งชาติที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ประกาศไว้ มีการจับตามองว่า การพิจารณาสำนวนเรื่องนี้ จะส่งผลไปถึงคดี ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดีละเลยเพิกเฉยไม่ยับยั้งโครงการจำนำข้าว ในวันที่ 12 พ.ย.ด้วย



+++นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สนช. กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้  คาดว่า จะมีการขอเลื่อนวาระการถอดถอนนายสมศักดิ์และนายนิคมมาพิจารณาเป็นวาระแรก เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนตัวไม่เห็นด้วยที่จะให้มีการประชุมลับ และจะเสนอต่อที่ประชุมขอให้ประชุมแบบเปิดเผย อย่างไรก็ตามเสียงของ สนช.ขณะนี้ยังมีความสูสีระหว่างฝ่ายที่อยากให้รับเรื่องไว้ก่อนและฝ่ายที่ไม่อยากให้รับเรื่องไว้ ซึ่งต้องรอฟังคำอภิปรายของสมาชิก



+++รายงานข่าวจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แจ้งว่า ป.ป.ช.มีคำสั่งตั้งกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง ลงวันที่ 10 ต.ค.2557 ให้นายวิชัย วิวิตเสวี เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกฯ เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ร่วมกับอดีตรัฐมนตรีอีก 33 คน ตามกรณีความผิดตามข้อกล่าวหากระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 มาตรา 66 กรณีย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ( สมช.) ให้ไปดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯฝ่ายข้าราชการประจำ สำนักนายกรัฐมนตรี และมีการแต่งตั้งโยกย้ายให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี พ้นจากตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) ไปดำรงตำแหน่งเลขาฯสมช.แทนนายถวิล เพื่อเปิดโอกาสให้ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ เครือญาติของผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 ขึ้นดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช.ทำหนังสือแจ้งไปยังผู้ถูกไต่สวนทั้งหมดรับทราบแล้ว



+++ขณะที่ วันนี้ มีการประชุมนัดแรกของคณะกรรมาธิการ(กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ หลังจากที่เมื่อวานนี้ มีการประชุมตั้งรองประธานคณะกมธ. และตั้งอนุกมธ.แบ่งงาน พร้อมทั้งวางกรอบโครงสร้างการยกร่างรัฐธรรมนูญ  คือ เดือนมกราคมถึงเมษายน 2558 กมธ.ยกร่างฯ ดำเนินการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ วันที่ 17 เมษายน 2558 เป็นวันสุดท้ายที่ กมธ.ยกร่างฯ ต้องจัดทำรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ และเสนอต่อประธานสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.)  คณะรัฐมนตรี (ครม.) และ คสช. ขณะที่ วันที่ 26 เมษายน 2558 เป็นวันสุดท้ายที่ สปช.ต้องพิจารณาให้ความเห็นหรือข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ เพื่อส่งต่อให้คณะกมธ.ยกร่าง พิจารณา ในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558 และเสนอกลับมาที่ สปช. มีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตามที่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวมาตรา 37 วรรคสองกำหนด และวันที่ 4 กันยายน 2558 เป็นวันสุดท้ายที่ประธาน สปช. ต้องนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ตามที่รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว มาตรา 32 วรรคสองกำหนด



+++พล.ท.นคร สุขประเสริฐ สมาชิก สปช. จังหวัดร้อยเอ็ด ในฐานะกมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง การจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนต่อการปฏิรูปประเทศ และข้อเสนอแนะต่อ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้ง 77 จังหวัด เพื่อสร้างการยึดโยงกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และลดคำครหาที่ว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รวมถึงการแก้ปัญหาของประเทศเป็นแบบบนลงล่าง หรือบนหอคอยงาช้าง สำหรับการจัดเวทีรับฟังความเห็นของประชาชนในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ  พื้นที่ที่ต้องทำความเข้าใจเป็นพิเศษ เชื่อว่าจะไม่เป็นปัญหา และทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ อีกทั้งในแนวทางรับฟังความเห็นดังกล่าวนั้น ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของบุคคล แต่เป็นเพียงการนำเสนอข้อมูลให้ประชาชนได้พิจารณา และหากมีความเห็นคล้อยตามกัน สามารถจะปรับวิธีคิดได้       



+++การใช้มาตรา 44 กับกลุ่มเคลื่อนไหว นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หน่วยงานด้านความมั่นคงได้รายงานว่า พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ที่มีลักษณะนัดชุมนุม เผยแพร่ข้อมูล ในทางยุยงให้เกิดความเข้าใจผิด เกลียดชัง รวมถึงช่วงนี้เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิรูป ต้องจัดตั้งกลุ่มต่างๆ นัดพูดคุย รวมถึงการชุมนุมของประชาชน จากความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ นายกรัฐมนตรี จึงกังวล สั่งให้ติดตามสถานการณ์ เร่งทำความเข้าใจ โดยเฉพาะความไม่สงบที่เกิดจากการแสวงหาผลประโยชน์จากการชุมนุมที่บริสุทธิ์ใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่อยากให้เกิดขึ้น



+++วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปราชการที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 6–8 พฤศจิกายน 2557 ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น โดย พล.อ.ประวิตร มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคำนับและแนะนำตัวกับนายอะคิโนริอีโต (Akinori Eto) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น พร้อมทั้งหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านความมั่นคงของภูมิภาคและความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน เพื่อสานต่อแนวนโยบายป้องกันประเทศและความร่วมมือด้านความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศโฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวอีกว่า การเดินทางเยือนญี่ปุ่นของ พล.อ.ประวิตร ครั้งนี้ ยังเป็นการสานต่อความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกัน จากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พบปะหารือกับนายซินโซ อาเบะ (Shinzo Abe) นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ณ กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี รวมทั้งเป็นการประสานงานเตรียมความพร้อมในการประชุม APEC ของนายกรัฐมนตรีที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 9–11 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน.



+++นายอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร อธิบดีกรมอาเซียน    กระทรวงการต่างประเทศ บรรยายสรุปก่อนไทยจะเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 25 ณ กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ 12-13 พฤศจิกายน   รวมทั้งการประชุมอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องว่า ประเด็นที่ไทยเตรียมนำเสนอที่ประชุมคือ การเพิ่มความแข็งแกร่งให้ภาคเกษตรอาเซียน เช่นการเพิ่มผลผลิตต่อไร่  การเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตร  และการพัฒนาความเป็นอยู่ของผู้ประกอบอาชีพในภาคการเกษตรเนื่องจากประเทศอา เซียน ส่วนใหญ่เป็นประเทศผลิตสินค้าเกษตรกรรม  และไทยจะผลักดันการสร้างความเชื่อมโยงในอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ไทยตั้งเป้าที่จะเพิ่มพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษจากปัจจุบัน 5 แห่งในปีหน้าอีก 7 แห่ง ได้แก่ กาญจนบุรี หนองคาย นครพนม นราธิวาส และเชียงรายใน 3 อำเภอ คือเชียงแสน เชียงของ และแม่สาย รวมเป็น 12 แห่งเพื่อลดช่องว่างชุมชนเมืองกับชนบท เพิ่มการจ้างงานและอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้มากขึ้น



+++กำหนดการหารือในระดับทวิภาคีของ พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างการเดินประชุมเอเปค คาดว่าจะเข้าเยี่ยมคาระวะนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน    และอาจเข้าพบกับนายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นายนเรนทรา โมดี นายกฯอินเดีย นายดมิทรี เมดเวเดฟ นายกฯรัสเซีย และผู้นำอื่น ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานในรายละเอียด   ทั้งนี้ ระหว่างการประชุมทั้งเอเปคและเอเชียตะวันออก (อีเอเอส) จะเป็นครั้งแรกที่พล.อ.ประยุทธ์มีโอกาสพบกับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ และผู้นำทั้ง 2 จะมีโอกาสนั่งติดกันในการประชุมเนื่องจากการจัดลำดับที่นั่งจะเรียงตามตัว  อักษรประเทศ



+++คดีอาชญากรรม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนายธีรพัฒน์ หรือต้น แก้วไชอินทร์ อายุ 38 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ปาดคอนางรัตนา เมธีพุทธิ อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัท อะคูเท็คท์ จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า และเป็นอดีตนายจ้าง ภายในลานจอดรถชั้น พี 4 ของอาคารโมเดิร์น ทาวน์ ถนนสุขุมวิท 63 ซอยเอกมัย 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 พ.ย. แต่เคราะห์ดีมีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือไว้ได้ แต่คนร้ายขับรถเบนซ์ เอส 300 สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน 1 กน 8855 กรุงเทพมหานคร และทรัพย์สินหลบหนีไป  เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ควบคุมตัวนายธีรพัฒน์ พร้อมกระเป๋าสัมภาระคาดว่าจะเตรียมหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้านไปสอบสวนขยายผลที่ห้องสืบสวน สน.ทองหล่อ และในวันนี้ จะนำตัวไปแถลงที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.สิริศักดิ์ อินทรสิทธิ์ พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ขอความช่วยเหลือเดินทางไปทำการเก็บร่องรอยเพิ่มเติมเพื่อใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในคดีนี้ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาไปควบคุมดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 และฝ่ายสืบสวน สน. ทองหล่อ อีก 1 ชุด ไปยังอพาร์ตเมนต์ ใกล้ วัดลาดปลาดุก ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เพื่อตรวจค้นหารถเบนซ์ เอส 300 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 กน 8855 กรุงเทพ มหานคร ของผู้เสียหายที่จอดทิ้งไว้ตามคำให้การของผู้ต้องหา โดยพบรถหรูจอดทิ้งไว้จริงแต่ถอดแผ่นป้ายทะเบียนออก จึงเก็บหลักฐานทั้งหมดและยึดไว้เป็นหลักฐาน นำส่งพนักงานสอบสวนต่อไป



+++เทศกาลลอยกระทง มีการจัดงานในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ท่ามกลางความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเฝ้าระวังเหตุร้าย เช่น การก่ออาชญากรรมการเล่นพลุ-ดอกไม้ไฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต และการจุดโคมยี่เป็งก่อกวนขึ้นลงของเครื่องบินที่สนามบินเชียงใหม่ กรุงเทพมหานคร(กทม.) เปิดสวนฯ 29แห่ง ให้เข้าไปลอยกระทงในสวนสาธารณะ ได้ตั้งแต่เวลา 15.00–24.00 น. แต่ห้ามใช้กระทงที่ทำด้วยโฟม ห้ามจุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ตลอดจนห้ามขายกระทง สินค้า อาหาร และอื่นๆ ภายในสวนสาธารณะโดยเด็ดขาด



+++กระทรวงมหาดไทย สั่งคุมเข้มระวังโป๊ะล่ม ขณะที่ตำรวจเตือนระวัง 4 ท่าน้ำชำรุด หวั่นเกิดอันตราย คือ ท่าเรือสวัสดิ ท่าเรือวัดแจงร้อน ท่าเรือวัดอรุณฯ และท่าเรือหวั่งหลี



+++ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.ลงนามคำสั่งเรื่อง ห้ามจำหน่าย เล่น หรือปล่อยโคมลอยแบบมีไฟในพื้นที่กทม. ในช่วงเทศกาลวันลอยกระทง ในวันที่ 6 พ.ย.ตั้งแต่เวลา 18.00-05.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ในเขตพื้นที่ตั้งของพระราชวัง วัดสำคัญ โบราณสถาน สถานที่จัดงาน หน่วยราชการ อาคารสูงและอาคารขนาดใหญ่ และพื้นที่ที่ประกาศให้เป็นพื้นที่ปลอดภัยต่อการบิน รวม 13 เขต  ประกอบด้วย 1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 6 เขต ประเวศ หนองจอก สวนหลวง มีนบุรี คลองสามวา และเขตลาดกระบัง 2. ท่าอากาศยานดอนเมือง 7 เขต ดอนเมือง บางเขน บางซื่อ ลาดพร้าว ดุสิต พญาไท และเขตจตุจักร หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่ง มีความผิดตามมาตรา 49 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 6,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



+++ช่วงเช้านี้ ปลัดกระทรวงคมนาคม ปล่อยเรือตรวจการณ์ที่ตลาดยอดพิมาณ ปากคลองตลาด ส่วนช่วงเย็น พล.ต.ท. เรืองศักดิ์  จริตเอก รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ตรวจความเรียบร้อย ป้องกันเหตุอาชญากรรม ส่วนนายอมร กิจเชวงกุล รองผู้ว่าฯ กทม. เปิดงานลอยกระทงที่สะพานพระราม8 ชมการแสดง สายน้ำแห่งสรัทาสุ้มหานที ประเพณีลอยกระทง   



 



 

ข่าวทั้งหมด

X