ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น. 30 กรกฎาคม 2562

30 กรกฎาคม 2562, 06:46น.


ในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีกำหนดการเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหมเป็นครั้งแรก ภายหลังจากที่ได้รับโปรดเกล้าฯให้ทำหน้าที่ โดยจะเดินทางถึงกระทรวงกลาโหมในเวลา 07.00 น. จากนั้นจะเดินทางกลับทำเนียบรัฐบาล เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลต่อในเวลา 09.00 น.



ในการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ สำนักงบประมาณจะเสนอหารือถึงงบประมาณปี 2563 ว่าจะคงกรอบงบประมาณตามที่รัฐบาลชุดก่อนอนุมัติไว้หรือไม่ หากยืนยันตามกรอบงบประมาณเดิม 3 ล้าน 2 แสนล้านบาททางสำนักงบประมาณพร้อมที่จะเสนอร่างกฎหมายงบประมาณประจำปี 2563 เข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์ถัดไป



ส่วนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะชี้แจงเรื่องการยื่นแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของรัฐมนตรี การจัดการหุ้นส่วน และหุ้นของรัฐมนตรี ที่เป็นข้อพึงปฏิบัติและข้อควร ระมัดระวังของครม.



สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าชี้แจงยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ



ผู้แทนจากกระทรวงการคลังเข้าชี้แจงแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561



ผู้แทนจากสำนักงบประมาณเข้าชี้แจงแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 และระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น พ.ศ.2560 ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการขอใช้งบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อแก้ไขและเยียวยา ความเดือดร้อนเสียหายในบางกรณี พ.ศ.2559



สัปดาห์นี้ไม่มีการประชุมทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เนื่องจากจะมีการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สิ่งของและระบบเทคโนโลยีต่างๆออกจากห้องประชุมชั่วคราว สำนักงานใหญ่ทีโอที กลับไปติดตั้งที่อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ที่แยกเกียกกาย จากนั้นในสัปดาห์ถัดไปจะเริ่มใช้ห้องประชุมในอาคารรัฐสภาแห่งใหม่เพื่อจัดประชุมเป็นครั้งแรก



ส่วนพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผยว่าในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อสรุปการทำงานในการอภิปรายนโยบายรัฐบาล และเตรียมความพร้อมในการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563



พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค เปิดเผยว่าขณะนี้ได้รับเอกสารที่จะนำไปใช้ในการต่อสู้คดีที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคถูกกล่าวหาว่าถือครองหุ้นในกิจการด้านสื่อมวลชนครบหมดแล้ว และจะมีการประชุมในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ เพื่อสรุปการจัดทำร่างคำชี้แจงครั้งสุดท้าย



นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลง “Open FWP Project” เปิดแผนงานของพรรคอนาคตใหม่ และเครื่องมือในการติดตามผลงานของพรรค รวมถึง ส.ส. ในพรรค ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ, แผนปฏิรูปกองทัพ, แผนทลายทุนผูกขาด ฯลฯ 



นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ จะไปยื่นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อให้ตรวจสอบและยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติของสมาชิกวุฒิสภาที่เข้าข่ายขาดคุณสมบัติ เพราะยังดำรงตำแหน่งในกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ กรรมการปฏิรูปประเทศ และกรรมการกฤษฎีกา ส่วนกรณีที่คำแถลงนโยบายของรัฐบาล ไม่มีการระบุงบประมาณและตัวเลขรายได้ เนื่องจากในที่ประชุมรัฐสภา มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหลายคนอภิปรายในประเด็นนี้ จึงจะรอว่าจะมีสมาชิกยื่นเรื่องต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. หรือไม่ หากไม่ยื่นเรื่องก็จะทำหน้าที่ในฐานะประชาชนยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ต่อไป



วันนี้ศาลแพ่งจะมีการเบิกความคดีโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบจีทูจี ตามที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ จะเบิกความครั้งสุดท้ายเพื่อเป็นพยานฝ่ายโจทก์ คือ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อยึดทรัพย์นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยงและพวก ซึ่งนายแพทย์วรงค์ เปิดเผยด้วยว่า คดีรับจำนำข้าวเป็นคดีที่มีการตรวจสอบรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผ่านกระบวนการของระบบรัฐสภา ว่ามีการทุจริตโดยนำข้าวเปลือกที่รับซื้อจากชาวนาในราคาแพง มาขายเป็นข้าวสารให้พรรคพวกในราคาถูก โดยอ้างว่าติดต่อซื้อขายกับรัฐบาลจีนแบบจีทูจี ซึ่งในความเป็นจริงไม่มีการส่งออกไปจีน แต่เป็นการนำมาเวียนขายในประเทศในราคาแพง จนสร้างความเสียหาย



ส่วนที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก มีนัดอ่านคำพิพากษาในชั้นฎีกา คดีที่พนักงานอัยการ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. เป็นจำเลยจำนวน 7 คน ประกอบด้วย นายนพรุจ หรือ นพรุฒ วรชิตวุฒิกุล, นายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน, นายวันชัย นาพุทธา, นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, และนพ.เหวง โตจิราการ ในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยมีอาวุธ โดยเป็นหัวหน้า หรือผู้มีหน้าที่สั่งการ, ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานโดยใช้กำลังขู่เข็ญ และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกไปแล้วไม่เลิก จากเหตุการณ์ชุมนุมปิดล้อมบ้านพักสี่เสาเทเวศร์ ของ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2550



...

ข่าวทั้งหมด

X