ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. 26 กรกฎาคม 2562

จากนโยบายของรัฐบาลเรื่องการลดภาษีเงินได้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กำลังเร่งศึกษาการจัดทำนโยบายภาษีเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในระบบ โดยศึกษาการเก็บภาษีเพิ่มหลายชนิด เช่น การเร่งผลักดัน พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่...) พ.ศ. ... รองรับการจัดเก็บภาษีจากผู้ประกอบการธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หรืออี-บิสสิเนส จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ เช่น กูเกิ้ล เฟซบุ๊ก ซึ่งขณะนี้ร่างกฎหมายอยู่ในการจัดทำรายละเอียดของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จากนั้นจะเสนอให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พิจารณาผลักดันต่อไป นอกจากนี้ยังศึกษาแนวทางการเก็บภาษีเพิ่มเติม จากการให้บริการด้านดิจิตอล (ดิจิตอล เซอร์วิส แท็กซ์) ซึ่งขณะนี้มีหลายประเทศเริ่มเก็บแล้ว

ส่วนการแก้ไขปัญหาพลังงาน นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน (ERS) เปิดเผยว่า ภาคพลังงานไทยยังมีปัญหาหลายประการที่ควรได้รับการแก้ไข เพราะหากทิ้งไว้จะทำให้มีความอ่อนแอลง และมีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขัน และฐานะการเงินระหว่างประเทศของไทย โดยมีนโยบายและการตัดสินใจของหน่วยงานภาครัฐหลายโครงการที่ประชาชนมีความสงสัย ไม่ว่าจะเป็นการอนุมัติต่ออายุและสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ภาคตะวันตก 2 โรงโดยไม่มีการประมูล และการเปิดประมูลสร้างท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 โดยไม่เชื่อมโยงกับแผนการจัดหาก๊าซธรรมชาติที่สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) ขณะเดียวกันราคาพลังงานยังมีการอุดหนุนราคาพลังงานบางประเภทซึ่งไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคบางกลุ่ม และไม่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ผลิตปรับปรุงประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเชื้อเพลิงชีวภาพที่ต้นทุนการผลิตยังอยู่ในระดับสูง

ERS จึงเสนอให้รัฐบาลใช้ดุลพินิจในการให้สิทธิประโยชน์แก่เอกชน มีการประกาศเงื่อนไขการประมูลที่มีความเป็นกลาง และเสนอให้ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารรัฐวิสาหกิจ เพื่อแยกการกำหนดนโยบาย การกำกับดูแลและการดูแลผลประโยชน์ของรัฐในฐานะของผู้ถือหุ้นออกจากกันอย่างแท้จริง

ส่วนแนวโน้มค่าเงินบาท นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า จากการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ออกมาตรการลดการเก็งกำไรค่าเงินบาทในช่วงกลางเดือน ทำให้ตัวเลขการถือครองพันธบัตรระยะสั้นของต่างชาติลดลง ค่าเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงเล็กน้อย แต่ยังมีทิศทางผันผวนในทิศทางอ่อนค่าลง

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี ยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายกีดกันการค้าของสหรัฐฯ ผ่านห่วงโซ่การผลิตของจีนและความต้องการสินค้าในตลาดโลกที่ลดลง

ในวันนี้ที่ตึกบัญชาการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ตรงข้าม สน.นพวงษ์) กลุ่มลูกจ้างแรงงานการรถไฟฯนัดรวมตัวประท้วงกรณีบรรจุพนักงานไม่เป็นธรรม

ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้อำนวยการสำนักไต่สวนฯ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จะนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ที่ปลอมเฟซบุ๊ก ทำให้เสื่อมเสีย

อาชญากรรมวันนี้ยังติดตามเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ในจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยกรณีที่มีชาวบ้านในพื้นที่บ้านห้วยไคร้ใหม่ หมู่ 5 ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ รุมทำร้าย พ.ต.ท.ตรีโลจน์ ปันตี รอง ผกก.สส.สภ.เวียงแหง และ ด.ต.ชัชวาลย์ วงค์หาญ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เวียงแหง ขณะปฏิบัติหน้าที่จับกุมคนร้ายคดียาเสพติด ทำให้ทั้ง 2 นายได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม โดยกรณีนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือ คดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด และเกิดยิงต่อสู้จนนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรม 1 ราย ซึ่งต้องว่ากันไปตามกระบวนและขั้นตอนของกฎหมายอย่างโปร่งใสที่สุด

ส่วนกรณีการรุมทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายนั้นยอมไม่ได้ เพราะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามหน้าที่ จึงมีการหารือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทหารและตำรวจ เพื่อทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ต้องบอกว่ามีชาวบ้านสองกลุ่มคือญาติผู้เสียชีวิตนายจะจือ จะอ่อ อายุ 50 ปี ชาวเขาเผ่ามูเซอ และชาวบ้านทั่วไป ซึ่งนายอำเภอเวียงแหงจะเร่งเข้าไปทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร เพราะความจริงคือคนตายมีหมายจับมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

อย่างไรก็ตามสมาชิกชุมชนห้วยไคร้ ยืนยันว่า ผู้ตายไม่ได้เป็นผู้ค้าและมียาเสพติดอยู่ในครอบครอง เหตุการณ์วิสามัญเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงเรียกร้องให้ย้ายเจ้าหน้าที่ชุดวิสามัญนายจะจือออกจากพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม, ให้จัดตั้งหน่วยงานกลางที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียมาไต่สวนคดีอย่างเร่งด่วน และ ให้มีการคุ้มครองพยานและครอบครัวผู้ถูกวิสามัญ

และคดีนักศึกษา ปวช.ปี 1 สาขาช่างยนต์ วิทยาลัยเทคโนโลยีช่างแห่งหนึ่ง ถูกกลุ่มนักเรียนอาชีวะไล่ยิงเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนศรีนครินทร์ แขวงและเขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 เปิดเผยว่าคดีนี้มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 22 คน เป็นผู้ใหญ่ 9 คน และเยาวชน 13 คน ซึ่งขออนุมัติหมายจับผู้ก่อเหตุไปแล้ว 8 คน จับได้ครบแล้ว พร้อมตรวจยึดรถจักรยานยนต์ได้ 8 คัน มีด 2 เล่ม จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ทุกคนให้การเป็นประโยชน์ และรับสารภาพว่าเป็นกลุ่มที่ร่วมก่อเหตุจริง จึงดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่น พยายามฆ่า มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีวัตถุระเบิดไว้ในความครอบครอง โดยหนึ่งในผู้ต้องหาเป็นผู้ใช้อาวุธปืนยิง จับกุมได้ที่บ้านญาติ จ.สมุทรปราการ

...