ในวันนี้ เวลา 09.00 น. ติดตามการประชุมรัฐสภา ครั้งที่ 4 (สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 1) ที่หอประชุมใหญ่ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ถ.แจ้งวัฒนะ
13.30 น. Dr.Olumuyiwa Benard Aliu ประธานคณะมนตรีองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization: ICAO) เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรี ที่ทำเนียบรัฐบาล เนื่องในโอกาสเข้าร่วมการประชุม ICAO Global Aviation Cooperation Symposium ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคมนี้ ที่จังหวัดภูเก็ต
ส่วนในการประชุมรัฐสภาเมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมงตามที่ได้รับการจัดสรรเวลา แถลงนโยบายต่อที่ประชุมเกี่ยวกับแนวทางการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อพัฒนาประเทศด้วยความมั่นคง สังคมไทยมีความสงบสุข สามัคคี และเอื้ออาทร คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีความพร้อมที่จะดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 เศรษฐกิจไทยมีความแข็งแกร่งและมีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ควบคู่ไปกับการดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยกำหนดกรอบการดำเนินนโยบายหลัก 12 ด้านเป็นทิศทางการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลในช่วง 4 ปีข้างหน้า อย่างไรก็ดี จากสถานการณ์และปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ รัฐบาลได้กำหนดเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการเพื่อบรรเทาปัญหา และลดผลกระทบกับประชาชนและระบบเศรษฐกิจอีก 12 มาตรการ รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่ว่าด้วยหลักเกณฑ์ และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งหลังจากที่แถลงนโยบายของรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้ว รัฐบาลจะซักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อให้เกิดการถ่ายทอดนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
สำหรับการแถลงนโยบายในครั้งนี้มีสมาชิกรัฐสภาลงชื่อเข้าประชุมจำนวน 702 คน จากที่มีสมาชิกทั้งหมด 747 คน
ภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ อ่านคำแถลงนโยบายเสร็จสิ้น นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่ารัฐบาลนี้ขาดความชอบธรรมในการเข้ามาบริหารประเทศ และเป็นรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจ และหากจะมีการเลือกตั้งใหม่โดยที่ยังไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะได้นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีคนเดิมกลับเข้ามาอีก
นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย สมาชิกวุฒิสภา อภิปรายว่า วุฒิสภาชุดนี้ถูกออกแบบให้เข้ามามีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในช่วงการเปลี่ยนผ่านประเทศ 5 ปี สมาชิกวุฒิสภาไม่ได้มีอำนาจเหนือกว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อย่างที่สมาชิกหลายคนมีการอธิบายอย่างคลาดเคลื่อน
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อภิปรายกรณีที่ฝ่ายค้านโจมตีที่ตนรอดพ้นจากการลงโทษในกรณีการลงนามปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับเครือกฤษดามหานคร โดยระบุว่า กรณีนี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาถึงที่สุดตั้งแต่เมื่อปี 2558 แต่ก็ยังมีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริง ให้ผู้คนในสังคมเข้าใจคลาดเคลื่อน ว่าตนมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด จึงให้ทีมกฎหมายเตรียมดำเนินคดีผู้ที่ทำให้ได้รับความเสียหาย และจะชี้แจงต่อรัฐสภาในวันนี้
...