ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.วันที่ 26 กรกฎาคม 2562

สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า นายรี ยอง โฮ รัฐมนตรีการต่างประเทศเกาหลีเหนือ จะไม่เดินทางมาร่วมการประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก หรือเออาร์เอฟ ซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศไทยในวันที่ 2 สิงหาคมนี้ โดยได้มีการแจ้งเรื่องให้ไทยในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรับทราบแล้ว ซึ่งนับว่าเป็นความผิดปกติที่รัฐมนตรีการต่างประเทศเกาหลีเหนือจะไม่เข้าร่วมการประชุม หลังจากที่เข้าร่วมการประชุมมาโดยตลอด และก่อนหน้านี้ยังมีการคาดการณ์กันว่านายรี ยอง โฮ จะพบหารือกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ ระหว่างที่เข้าร่วมประชุมเออาร์เอฟ เพื่อเร่งกระบวนการเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งสหรัฐฯ พยายามผลักดันให้มีการเจรจาระหว่างกันอีกครั้งแต่เกาหลีเหนือไม่มีการตอบสนองต่อความพยายามของสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ

โดยเมื่อวานนี้ เกาหลีเหนือทดสอบขีปนาวุธ 2 ลูก ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้ที่ทำระยะได้ราว 430 กิโลเมตร และตกลงสู่ทะเลทางฝั่งตะวันออกของประเทศ

ส่วนประเด็นเศรษฐกิจโลกแม้ว่าการเติบโตในสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะลดดอกเบี้ยในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลง โดยเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 นายเตยี่ ตัน นักเศรษฐศาสตร์เอเชีย ของมอร์แกน สแตนลีย์ ในฮ่องกง คาดการณ์ว่า หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบาย จะส่งผลให้ธนาคารกลางในเอเชียทยอยลดดอกเบี้ยต่อเนื่องไปจนถึงปีหน้า แม้ว่าระดับหนี้ที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่นโยบายอันจำกัดจะทำให้บางประเทศผ่อนคลายนโยบายได้พอประมาณ โดยคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทยและเกาหลีใต้ จะลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในช่วงนี้จนถึงปีหน้า ขณะที่อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ ยกเลิกเข้มงวดนโยบายตั้งแต่ปี 2561 ส่วนอินเดียและมาเลเซียน่าจะผ่อนคลายนโยบายต่อไปเพื่อหนุนเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา 

คณะกรรมการการค้าแห่งสหรัฐฯ หรือ เอฟทีซี ประกาศว่า เฟซบุ๊ก อิงค์ ต้องจ่ายค่าปรับ 5,000 ล้านดอลลาร์ และปรับเปลี่ยนโครงสร้างในการบริหาร เพื่อให้เป็นไปตามความตกลงยุติการดำเนินคดีที่เอฟทีซี กล่าวหา เฟซบุ๊กว่าดำเนินธุรกิจในทางมิชอบ เข้าข่ายละเมิดกฎหมายว่าด้วยความเป็นส่วนตัว ด้วยการปล่อยให้ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของบัญชีผู้ใช้งานตกอยู่ในมือของบุคคลที่ 3 โดยที่เจ้าของบัญชีไม่ได้ยินยอม

นายโจ ไซมอนส์ ประธานเอฟซีที เปิดเผยด้วยว่า ตามความตกลงครั้งนี้เฟซบุ๊กต้องนำเสนอกฎเกณฑ์ที่เข้มงวดกว่าเดิมในการดำเนินการ และต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างของบริษัทด้วยการเพิ่มคณะกรรมการอิสระด้านความเป็นส่วนตัว เพื่อลดทอนอำนาจการตัดสินใจของนายมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งบริษัท

นายนาทาเนียล กลีเคอร์ หัวหน้าแผนกนโยบายความปลอดภัยทางไซเบอร์ของเฟซบุ๊ก เปิดเผยว่า เฟซบุ๊กได้จัดการปิดเพจ, ปิดกลุ่มยูสเซอร์และปิดบัญชีออกไปจากการใช้งานรวม 294 บัญชี คิดเป็นจำนวนเพจ 1,509 เพจ ใน 4 ประเทศคือ ไทย, ยูเครน, ฮอนดูรัส และรัสเซีย โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของการประสานงานเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ซึ่งไม่มีตัวตนที่แท้จริง และผู้ใช้งานเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการร่วมมือกับผู้อื่น เพื่อใช้บัญชีผู้ใช้ปลอมนั้นหลอกลวงผู้อื่น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เฟซบุ๊กไม่ต้องการให้เกิดขึ้น โดยไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในแต่ละเพจ

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ รายงานว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 กรกฎาคมมีปริมาณลดลง ขณะที่กำลังผลิตก็ลดลงเช่นกันเนื่องจากพายุในอ่าวเม็กซิโกส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 14 เซนต์ ปิดที่ 56.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ ปิดที่ 63.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ขณะที่บริษัทชื่อดังหลายแห่งในสหรัฐฯ รวมถึงเทสลาและอเมริกัน แอร์ไลน์ส รายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่น่าผิดหวัง ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับลดลง

ดาวโจนส์ ลดลง 128.99 จุด หรือร้อยละ 0.47 ปิดที่ 27,140.98 จุด

เอสแอนด์พี ลดลง 15.89 จุด หรือร้อยละ 0.53 ปิดที่ 3,003.67 จุด

แนสแดค ลดลง 82.96 จุด หรือร้อยละ 1.00 ปิดที่ 8,238.54 จุด

...