สรุปข่าว19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562

สรุปข่าว19.30น.วันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2562

+++สถานการณ์ภัยแล้งลุ่มเจ้าพระยา นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ผันน้ำช่วยพื้นที่นาข้าววันละ 45 ล้าน ลบ.ม. โดยระบายจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์เมื่อวันที่ 22-24 กรกฎาคม และขณะนี้ลดลงเหลือ 40 ล้าน ลบ.ม. เนื่องจากเริ่มมีฝนตกในพื้นที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้พื้นที่เกษตร จึงปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเพื่อกักเก็บน้ำให้มากที่สุดสำหรับใช้ในฤดูแล้ง ปัจจุบันมีน้ำไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์วันละ 3 ล้าน ลบ.ม. แต่เขื่อนภูมิพลยังไม่มีน้ำไหลเข้า ได้รับรายงานว่ามีฝนตกจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง ซึ่งจะมีน้ำมาเติมเขื่อนภูมิพล ขณะนี้นาข้าวในลุ่มเจ้าพระยาใหญ่กำลังตั้งท้องต้องการน้ำช่วงนี้ และจะเก็บเกี่ยวกลางเดือนสิงหาคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าเข้าหน้าฝนเต็มตัวช่วงวันที่ 10 สิงหาคม มั่นใจว่าจะผ่านพ้นวิกฤติไปได้ทั้งน้ำกินน้ำใช้และน้ำเพื่อการเกษตร

++++นอกจากนั้น ยังได้รับรายงานการสำรวจพื้นที่นาข้าวเสียหายสิ้นเชิงจากกรมส่งเสริมการเกษตร ภาคกลางเสียหายกว่า 10,000 ไร่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 800,000 ไร่ ภาคเหนือกว่า 400,000 ไร่ รวมกว่า 1.2 ล้านไร่ สถานการณ์ขณะนี้เริ่มมีฝนตกหลายจังหวัด จึงช่วยทุเลาไม่ให้พื้นที่เกษตรเสียหายมากขึ้น

+++ส่วนภาคกลางต้องขอร้องไม่ให้ทำนาต่อเนื่อง เพราะปริมาณน้ำใช้การได้ของเขื่อนหลัก 4 เขื่อนของลุ่มเจ้าพระยาน้ำอยู่ในเกณฑ์น้อย โดยเขื่อนภูมิพลเหลือเพียง 725 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 5  เขื่อนสิริกิติ์ 421 ล้าน ลบ.ม.หรือ ร้อยละ 4 เขื่อนแควน้อยฯ มีน้ำ 86 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 9 เขื่อนป่าสักฯ มีน้ำ 38 ล้าน ลบ.ม. หรือ ร้อยละ 4 รวม 1, 300 ล้านลบ.ม. ขอให้ช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัดและใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด” เบื้องต้นเกษตรกรจะได้รับเงินค่าชดเชยภัยพิบัติตามระเบียบกระทรวงคลัง โดยนาข้าว 1,113 บาทต่อไร่ ถ้าเป็นลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก. ส.) จะได้รับเบี้ยประกันภัยอีกไร่ละ 1,260 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่

+++สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญได้เผยแพร่คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญไม่รับคำร้อง หลังศาลแพ่งส่งคำโต้แย้งนายธาริต เพ็งดิษฐ์ และ นางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ปช.12/2559 คดีหมายเลขแดงที่ ปช.1/2561 เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 212 สืบเนื่องจากศาลแพ่งมีคำสั่งให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติของนายธาริตและนางวรรษมล จำนวน 49 รายการ รวมมูลค่า 341,797,811.58 บาท พร้อมดอกผลของทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน

+++ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า  คดีอยู่ในระหว่างการอุทธรณ์ บทบัญญัติที่มีการโต้แย้ง จึงไม่ใช่บทบัญญัติที่ศาลแพ่งจะใช้บังคับแก่คดี  กรณีดังกล่าวจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงมีคำสั่งไม่รับไว้พิจารณาวินิจฉัย

+++ยังคงเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์ สำหรับคดี "แพรวา 9 ศพ" เหตุเกิดเมื่อปี 2553 แต่ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ได้มีการเปิดเผยภาพระหว่างที่แพรวา ได้โกนหัวบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยพบว่า แพรวานั้นได้โกนผมบวชชี โดยมีมารดาคือ นางลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา บวชชีพราหมณ์อยู่ด้วย แต่ไม่มีการเปิดเผยว่า อยู่ที่วัดใด ถือได้ว่า ภาพดังกล่าวเป็นการเปิดภาพของ "แพรวา" เป็นครั้งแรก

+++ตำรวจ สน.บางนา ควบคุมตัว นักเรียนอาชีวะ คนยิง นักเรียนอาชีวะสถาบันคู่อริเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน พล.ต.ต.มงคล วรุณโณ ผบก.น.5 เปิดเผยว่า หลังตำรวจชุดสืบสวน สน.บางนา และ บก.น.5 ไปจับกุมนายพีรวิชญ์ หรือก้อง มูลติด อายุ 18 ปี นักเรียนชั้นปีที่ 3 โรงเรียนเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ตามหมายจับศาลจังหวัดพระโขนง ที่ห้องพักของเพื่อนย่านบางบ่อ จ.สมุทรปราการ เบื้องต้นนายพีรวิชญ์ ให้การว่าเป็นคนไล่ติดตามยิงผู้ตายและคนเจ็บ โดยใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด.38 ชนิดบรรจุทีละนัด ซื้อมาราคา 2,000 บาท ก่อนนำไปซ่อนที่จุดทิ้งขยะย่านบางพลี โดยเล่าว่า เจอกลุ่มผู้ตายโดยบังเอิญแล้วเกิดเขม่นหน้า ทั้งที่ไม่ทราบว่าเรียนสถาบันใดก่อนจะขับขี่จักรยานยนต์ไล่ติดตามแล้ว นายวรชัย สร้อยคูบัว ซึ่งเป็นเพื่อนของนายพีรวิชญ์ ได้ขว้างระเบิดปิงปองใส่ทำให้ฝ่ายผู้ตายตกใจหยุดรถ จึงสบโอกาสยิงปืนใส่

+++พล.ต.ต.มงคล กล่าวว่า ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 9 คน ยังเหลืออีก 3 คน กำลังเร่งให้ทยอยมาพบตำรวจและสอบปากคำร่วมกับทีมสหวิชาชีพก่อนจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า ก่อนเกิดเหตุทั้งสองฝ่ายมีลักษณะยั่วยุกันหรือไม่อย่างไร  เบื้องต้นถูกตั้งข้อหา “ร่วมกันฆ่า,ร่วมกันพยายามฆ่า,มีอาวุธและกระสุนปืนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” โดยจะคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดพระโขนงฝากขังวันที่ 27 กรกฎาคมนี้

+++ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือนครึ่งอยู่ช่วงหนึ่ง เนื่องจากได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งตามหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ดัชนีนิกเกอิ ปิดเพิ่มขึ้น 46.98 จุด ที่ 21,756.55 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับข่าวสหรัฐฯและจีนจะเริ่มเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีอีกครั้งในวันอังคารหน้าที่นครเซี่ยงไฮ้ โดยทำเนียบขาวระบุว่า การหารือจะครอบคลุมประเด็นทรัพย์สินทางปัญญา การบังคับถ่ายโอนเทคโนโลยี กำแพงการค้าที่ไม่ใช่ภาษี การเกษตร การบริการ ยอดขาดดุลการค้า และการบังคับใช้กฎหมาย

+++ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 70.26 จุด ปิดวันนี้ที่ 28,594.30 จุด

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,730.90 จุด เพิ่มขึ้น 5.46 จุด  มูลค่าการซื้อขาย 58,956.10 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ตอบรับการแถลงนโยบายของรัฐบาล

+++มีผู้เสียชีวิต 2 รายป่วยอีก 1 รายจากเชื้อแบคทีเรีย ‘ลิสทีเรีย’ ที่คาดว่าปนเปื้อนอยู่ในแซลมอนรมควัน โดยทั้ง 3 คนอาศัยอยู่ในรัฐวิคตอเรีย, นิวเซาท์เวลส์ และควีนส์แลนด์ ของออสเตรเลีย ขณะที่แซลมอนรมควันที่เป็นสาเหตุนั้น ถูกส่งมาจากรัฐแทสมาเนีย ซึ่งยังเป็นแหล่งผลิตแซลมอนเกือบทั้งหมดที่มีขายในประเทศ สาธารณสุขของออสเตรเลีย ออกประกาศเตือนบุคคลที่มีความเสี่ยง ได้แก่ สตรีมีครรภ์, คนชรา, เด็กทารก และผู้มีภูมิต้านทานต่ำให้หลีกเลี่ยงบริโภคแซลมอนรมควัน เพราะผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยทั้ง 3 คนคือผู้ที่มีอายุมากกว่า 70 ปี และมีโรคประจำตัว

+++สำหรับแบคทีเรียลิสทีเรีย เป็นชื่อกลุ่มของแบคทีเรียที่มักพบในดิน น้ำและสัตว์เลี้ยงรวมถึงสัตว์ป่าบางชนิด จะปะปนอยู่ในอาหารแช่แข็ง และสามารถเติบโตได้ในระบบทำความเย็นเช่นในตู้เย็น แต่จะถูกทำลายเมื่อผ่านการทำอาหารหรือ พาสเจอไรซ์ โดยผู้ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัด ตัวร้อน อาเจียนและวิงเวียนศีรษะ โดยเมื่อปีที่แล้วออสเตรเลีย มีปัญหาเชื้อแบคทีเรียลิสทีเรียปนเปื้อนมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ปนเปื้อนในแคนตาลูป ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย