การเคลื่อนไหวของกลุ่มเห็นต่างกับรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีมาตรการรับมืออยู่แล้ว ทั้งกฎอัยการศึก และการใช้อำนาจของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช.ตามม.44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราว พ.ศ.2557 ที่บัญญัติให้อำนาจ คสช. สามารถยับยั้ง หรือกระทำการใดๆไม่ว่าการกระทำนั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการให้ถือว่าคำสั่ง หรือการกระทำ ชอบตามรัฐธรรมนูญนี้และถือเป็นที่สุด ซึ่งมาตรการต่างๆนี้เป็นสิทธิ์ที่สามารถใช้ได้โดยชอบด้วยกฎหมาย และหากมีการเคลื่อนไหวก็ขอให้ระวังว่าจะเข้าข่ายต่อกฎต่างๆดังกล่าว พร้อมระบุยังไม่มีแนวคิดยกเลิกกฎอัยการศึกในช่วงเร็วๆนี้ และตามพื้นที่ต่างๆยังมีเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจคอยดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด พล.อ.ประยุทธ์ เปิดเผยหลังให้โอวาทนักกีฬาที่จะเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเอเชียน บีช ครั้งที่ 4 ที่จังหวัดภูเก็ต ยืนยันว่า ยังไม่มีการพิจารณายกเลิกกฏอัยการศึกในจ.ภูเก็ตช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาเอเชียนบีชเกมส์ 14-23 พ.ย.นี้ เชื่อว่ากฎอัยการศึกไม่กระทบท่องเที่ยวส่วนเรื่องที่จะกระทบน่าจะเป็นเรื่องนิสัยคนไทยมีปัญหากันเองมากกว่า เช่นกรณีการชอบดื่มสุรา ยาเสพติด จนเกิดเหตุทะเลาะเบาะแว้งกันเอง
สำหรับการพิจารณาถอดถอนนายนิคม ไวยรัชพานิช และนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับรัฐบาล เป็นเรื่องของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พร้อมชี้ว่าหากทำผิดจริงก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า รู้ดีว่ามีบุคคลภายนอกคอยดูการทำงานของรัฐบาลอยู่มาก จึงอยากให้ทุกภาคส่วนช่วยเหลือกันและรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อเสนอต่อสนช.ตามที่รัฐบาลได้เปิดเวทีคู่ขนานกับสภาปฎิรูปแห่งชาติหรือสปช.เพื่อให้การปฎิรูปเป็นประโยชน์มากที่สุด นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเทศกาลลอยกระทงว่า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่คอยตรวจความปลอดภัยในการจุดพลุดอกไม้ไฟและการปล่อยโคมลอยของประชาชน เนื่องจากอาจเกิดอุบัติเหตุและส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ส่วนตัวเองจะไม่เดินทางไปลอยกระทง เพราะมีความสุขดีแล้ว