ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. 24 กรกฎาคม 2562

การให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  กล่าวว่า ภายใน 1เดือน จะสรุปการรับฟังความคิดเห็น ทำเวิร์กช็อปเปิดให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นและนำมาประกอบทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการเพื่อรองรับสังคมผู้สูงอายุ เพื่อนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) จะฝากให้ครม.พิจารณาเรื่องการเพิ่มค่าอาหารผู้สูงอายุที่อยู่ตามสถานสงเคราะห์ เพราะไม่ได้ปรับมานานแล้ว ส่วนเรื่องเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุที่จะมีการปรับขึ้น เป็นเรื่องใหญ่ต้องปรึกษาสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนตัวขอเน้นว่าสิ่งใดที่ต้องทำเพื่อลดความเหลื่อมล้ำจะเร่งทำทันที

ประเด็นการปรับลดราคาค่าโดยสารรถไฟฟ้า กรมการขนส่งทางรางกำลังศึกษารายละเอียดในการปรับลดค่าโดยสารอยู่ โดยแนวทางการปรับลดค่าโดยสารก่อนหน้านี้ มี 2-3 แนวทาง คือ 1.การใช้ภาษีท้องถิ่น ที่กรุงเทพมหานคร จัดเก็บหรือภาษีต่อทะเบียนป้ายวงกลมของผู้ใช้รถ เอามาชดเชยค่าโดยสารรถไฟฟ้าโดยตรง เพื่อจูงใจให้ผู้ใช้รถยนต์หันมาใช้ระบบรถไฟฟ้ามากขึ้น มีรายงานว่า ประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับการใช้เงินภาษีมาอุดหนุนชดเชยเพื่อลดค่ารถไฟฟ้า เนื่องจากเป็นการนำเงินภาษีของผู้ที่ไม่ได้ใช้ระบบรถไฟฟ้าเข้าไปจ่ายชดเชยด้วย ซึ่งอาจเกิดความไม่เป็นธรรม 2.แนวทางในการจัดตั้งกองทุนและหาที่มาของแหล่งเงินเข้ากองทุน เช่น การนำรายได้ที่เกิดจากการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ในแนวเส้นทางรถไฟฟ้ามาจ่ายชดเชยค่าโดยสารให้แก่เอกชนผ่านกองทุนดังกล่าว เพื่อให้สามารถปรับลดค่าโดยสารลงได้มากที่สุด

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ขอให้ทุกสำนักงานเขตกวดขันการจอดหรือขับขี่รถจักรยานยนต์บนทางเท้า พร้อมทั้งจัดทำแผน ตั้งจุดกวดขัน จับ-ปรับ รถจอดหรือขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าอย่างเข้มงวด และมีนโยบายที่จะเพิ่มโทษปรับผู้ขับขี่จักรยานยนต์บนทางเท้าเป็น 2,000 บาท โดยจะเริ่มจับปรับในอัตราใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2562 เป็นต้นไป พร้อมทั้งจัดทำแอปพลิเคชัน สำหรับตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิดหากพบว่าเป็นผู้กระทำผิดซ้ำซากให้ดำเนินการลงโทษสูงสุด โดยไม่ให้มีการลดหย่อนอย่างเด็ดขาด นอกจากนี้กำชับให้สำนักเทศกิจและฝ่ายเทศกิจทุกเขต เข้มงวดเรื่องหาบเร่ –แผงลอย บริเวณใดที่จัดระเบียบแล้วขออย่าให้มีการตั้งวางหาบเร่–แผงลอยหรือทำการค้าอีกเด็ดขาด โดยเฉพาะถนนสายหลักและบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ

การเตรียมแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เปิดเผยถึงการประชุมร่วมวิป 3 ฝ่ายถึงกรอบเวลาในการอภิปรายนโยบายรัฐบาลว่า จะใช้เวลาประมาณ 28 ชั่วโมงครึ่ง หรือ 2 วันเศษ จะเริ่มประชุมตั้งแต่ 09.30 น.วันที่ 25 กรกฎาคม และจบที่เวลาประมาณ 24.00-01.00 น. ของวันที่ 26 กรกฎาคม สำหรับเวลาในการอภิปรายนั้น ฝ่ายรัฐบาลได้ 5 ชั่วโมง ถือว่าได้น้อย แต่ไม่เป็นไร เพราะสามารถปรับในทางปฏิบัติได้ ส่วนฝ่ายค้านได้ 13 ชั่วโมงครึ่ง หากฝ่ายใดลุกขึ้นประท้วงก็จะคิดเวลาของฝ่ายนั้น ใครที่เกเรยุคสมัยนี้ชาวบ้านก็จะเป็นผู้ตรวจสอบ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ระบุว่า หากพรรคฝ่ายค้านพูดไปถึงใคร คนที่ถูกพาดพิงก็ควรตอบ จะนั่งยิ้มหรืออมน้ำแข็งอยู่คงไม่ได้ ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ถือว่าพอใจ เวลาที่ฝ่ายค้านได้รับการอภิปราย หลังจากนี้จะไปจัดสรรแบ่งเวลากับ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ขณะนี้มีชื่อผู้ขออภิปรายนโยบายรัฐบาลกว่า 80 คนแล้ว ส่วนที่ฝ่ายรัฐบาลตั้งทีม 20 ส.ส.คอยคัดเกม หาก ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายนอกประเด็นนั้น ไม่ห่วง

ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 55 เซนต์ ปิดที่ 56.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ ปิดที่ 63.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รายงานระบุว่าในสัปดาห์หน้า สหรัฐฯและจีน จะจัดเจรจาทางการค้ารอบใหม่ ช่วยคลายความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์ทางพลังงานได้พอสมควร หลังจากก่อนหน้านี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) ปรับลดคาดการณ์การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการบริโภคพลังงาน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งแรง ได้แรงหนุนจากรายงานผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาดของโคคา-โคลาและยูไนเต็ด เทคโนโลยี เช่นเดียวกับมุมมองทางบวกต่อการเจรจาคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 177.29 จุด ปิดที่ 27,349.19 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.44 จุด ปิดที่ 3,005.47 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.27 จุด  ปิดที่ 8,251.40 จุด

ราคาทองคำ ขยับลงพอสมควร ถูกกดดันจากดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,421.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า นายหลี่ เผิง อดีตนายกรัฐมนตรีจีน ถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันจันทร์ที่ 22 กรกฎาคม 2562 ในขณะที่มีอายุ 90 ปี ซึ่งในรายงานของสื่อทางการไม่ได้เปิดเผยสาเหตุ แต่ก่อนหน้านี้มีรายงานว่านายหลี่ เคยป่วยเป็นโรคมะเร็งในระบบทางเดินปัสสาวะ นายหลี่ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2531-2541 และประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน เป็นผู้ที่ประกาศใช้กฎอัยการศึก เพื่อปราบปรามผู้ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก

แฟ้มภาพ