ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในช่วงเช้าวันที่ 30 ก.ค. ครั้งแรกหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเดินทางเข้ากระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในศาลาว่าการกลาโหม ทั้งศาลหลักเมือง เจ้าพ่อหอกลอง 2 แห่ง รัชกาลที่ 5 เจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี โดยมีพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ(ผบ.เหล่าทัพ) และข้าราชการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ และร่วมพิธี จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จะหารือวงเล็กกับรมช.กลาโหม และผู้นำเหล่าทัพด้วย
นายวีระกร คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึง การเตรียมความพร้อมการแถลงนโยบายรัฐบาล ในวันที่ 25-26 กรกฎาคมนี้ ว่าพรรคได้เตรียม ส.ส. จำนวน 20 คน เป็นทีมตอบโต้แบบรวดเร็วในสภาฯ หากมีการอภิปรายนอกประเด็น จะรีบสวนกลับในทันที ยืนยันว่า หากฝ่ายค้าน อภิปรายในเนื้อหาสาระ ก็จะปล่อยให้ดำเนินไปตามปกติ ไม่ประท้วง และช่วงบ่ายพรุ่งนี้พรรคจะประชุมสรุปอีกครั้ง เช่นเดียวกัน วิปฝ่ายค้านของทั้ง 7 พรรค นัดประชุมกัน เรื่องการแบ่งเวลาในการอภิปรายของแต่ละพรรคให้ลงตัวเหมาะสม ระยะเวลาในการอภิปรายจากเดิมที่ยื่นขอไว้ 3 วัน แต่ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 2 วัน โดยฝ่ายค้านจะมีเวลาในการอภิปรายเพียง 13 ชั่วโมง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด (MTSI) หรือการค้าปลีกสมัยใหม่ไตรมาส 2 เกินกว่า 50 ทุกรายการ เศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวใกล้เคียงร้อยละ 2.8-3.0 และครึ่งปีแรกจะขยายตัวร้อยละ 2.9-3.0 ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด มองว่า การค้าขายยังอยู่ในสถานการณ์ปกติใกล้เคียงไตรมาส 1 ส่วนแนวโน้มไตรมาส 3 สถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับ ตามการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ยังมีปัญหาต่าง ๆ เช่น ราคาพืชผลทางการเกษตร การส่งออกยังไม่โดดเด่น เนื่องจากสงครามการค้า ผู้ประกอบการโมเดิร์นเทรด เชื่อว่า ภาพรวมจะค่อย ๆ ปรับตัวดีขึ้น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมมีนโยบายเร่งด่วนดึงดูดนักลงทุนที่จะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนให้เข้ามาลงทุนในไทย หลังได้รับผลกระทบจากสหรัฐฯขึ้นภาษีสินค้านำเข้า เนื่องจากไทยมีความพร้อมรองรับการย้ายฐานการลงทุนของบริษัทเหล่านี้ และยังมีแผนที่จะออกไปโรดโชว์ พบนักลงทุนต่างประเทศ เพื่อชักจูงให้เข้ามาลงทุนไทยเพิ่มขึ้น บริษัทลงทุนในจีน ต้องการย้ายฐานการผลิตออกจากจีน ตามรายงานของนิเคอิ เอเชียน รีวิว ได้แก่ บริษัท คาสิโอ, ไซหลุนไทร์, ซิตี้เชนวอร์ซ, และริโก้ ผลิตปริ๊นเตอร์ ซึ่งทั้ง 4 บริษัทนี้กระทรวงอุตสาหกรรมมีเป้าหมายที่จะชักจูงให้ย้ายฐานการผลิตเข้ามาที่ไทย โดยบางบริษัทมีแผนที่จะเข้าพบนายสุริยะอยู่แล้ว ด้านนักลงทุนญี่ปุ่นที่ลงทุนในไทยจำนวนมากอยู่แล้ว ก็มีแผนที่จะออกไปพบหารือกับองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่นหรือเจโทรด้วยตนเอง คาดว่าจะเป็นหลังจากรัฐบาลแถลงนโยบายเพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคและความต้องการของนักลงทุนเพิ่มเติมจากที่รัฐบาลมอบให้อยู่แล้ว เช่น ลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น เพื่อให้คงการลงทุนในไทยและลงทุนเพิ่มในไทย และดึงดูดนักลงทุนรายใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) จัดทำแผนตามมาตรการเร่งด่วนให้เสร็จภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้ไป
รอยเตอร์ รายงานอ้างแถลงการณ์จากกระทรวงพาณิชย์ของประเทศจีนว่า รัฐบาลจีน จะใช้มาตรการป้องกันการทุ่มตลาด โดยการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กกล้าไร้สนิมหรือเหล็กสแตนเลสที่นำเข้าจากกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู) ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอินโดนีเซีย รัฐบาลจีน จะเก็บภาษี ระหว่างร้อยละ 18.1-103.1 สำหรับเหล็กแท่งยาวและเหล็กแผ่นที่นำเข้าจากกลุ่มอียูและอีก 3 ประเทศเอเชียดังกล่าว เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้ มาตรการนี้มีขึ้นหลังการสอบสวนในเรื่องนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมปีก่อน หลังจากบริษัทซันซิ ไทกัง สแตนเลส ผู้ผลิตเหล็กสแตนเลสรายใหญ่ของรัฐบาลจีน ร้องเรียนและพบว่าสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมเหล็กของประเทศจีน สำหรับเหล็กทั้งสองประเภทดังกล่าวส่วนใหญ่จะใช้ในการผลิตเรือ,ตู้ขนส่งสินค้า,ทางรถไฟ,การสร้างโรงไฟฟ้าและอุตสาหกรรมอื่นๆ
การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,727.58 จุด ลดลง 7.52 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,267.52 ล้านบาท เนื่องจากในวันพรุ่งนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะปรับตัวเลขอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ของโลกในปี 2562 ใหม่ คาดว่าจะปรับลดลง จากเดิมประเมินไว้ก่อนหน้านี้ว่าจีพีดี เติบโตไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3.3 การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่นลดลง 50.20 จุด ปิดที่ 21,416.79 จุด เนื่องจากวิตกกังวลแนวโน้มผลประกอบการ ก่อนที่รัฐบาลญี่ปุ่นจะปรับขึ้นภาษีการอุปโภคบริโภคในเดือนต.ค.นี้ ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 394.14 จุด ปิดที่ 28,371.26 จุด ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขณะที่ นักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ประท้วงในฮ่องกง
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษ รายงานว่า คลิปวิดีโอที่บันทึกในเรือสเตนา อิมเพโร เรือบรรทุกน้ำมันของอังกฤษ ที่ถูกหน่วยดูแลชายฝั่งของกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่านบุกยึดเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว และมีการเผยแพร่ทางสื่อโทรทัศน์อิหร่านเป็นครั้งแรกเมื่อวันเสาร์ แสดงให้เห็นว่า ลูกเรือของเรือบรรทุกน้ำมันอังกฤษนั่งรวมกันอยู่บนพื้นด้วยอาการหวาดกลัว ขณะฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของอิหร่าน โดยอิหร่านอ้างว่าเรือดังกล่าวรุกล้ำน่านน้ำและไม่ฟังคำเตือนหลายครั้งจากหน่วยดูแลชายฝั่งอิหร่าน หนังสือพิมพ์เดอะซัน คาดว่า บริเวณที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ อาจจะอยู่บริเวณท่าเรือเมืองบันดาร์ อับบาส ทางตอนใต้ของอิหร่าน ซึ่งไม่ห่างจากจุดที่เครื่องบินและเรือลาดตระเวนอิหร่านปฏิบัติการเพื่อยึดเรือดังกล่าว นอกจากนี้ หน่วยดูแลชายฝั่งอิหร่าน ขู่จะใช้วิธีบุกขึ้นเรือทุกลำที่จะแล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ เพื่อตรวจสอบสินค้าที่บรรทุก อ้างว่า เพื่อปกป้องความปลอดภัยของเรือที่แล่นเข้า-ออก หนังสือพิมพ์เดอะซันตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการเช่นนี้อาจจะถูกคัดค้านจากผู้ประกอบธุรกิจเดินเรือ ที่แล่นผ่านช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางลำเลียงน้ำมันดิบหนึ่งใน 5 ของน้ำมันดิบทั้งหมดไปสู่ตลาดโลก
ทำเอาแฟนคลับใจหายไม่น้อย สำหรับการเลิกรากันระหว่าง ซงจุงกิ และ ซงเฮเคียว คู่ขวัญจากซีรีส์เกาหลีชื่อดัง ที่สุดท้ายลงเอยด้วยการหย่า และยังไม่มีฝ่ายไหนที่ออกมาเปิดใจแบบเต็มปากถึงเรื่องนี้เลย ล่าสุด สื่อเกาหลีใต้รายงานว่า ซงเฮเคียว ได้ลบภาพคู่ที่เคยถ่ายร่วมกับซงจุงกิ ออกไปจากอินสตาแกรมของตนเองทั้งหมดแล้ว หลังจากที่ต้นสังกัดของซงเฮเคียว เปิดเผยว่า มีการหย่ากันอย่างเป็นทางการ โดยไม่ต้องมีค่าเลี้ยงดูหรือการแบ่งทรัพย์สินและสินทรัพย์ สื่อเกาหลี ระบุว่า ทั้งคู่มีทรัพย์สมบัติรวมกันมากกว่าหนึ่งแสนล้านวอน หรือ ประมาณ 2,670 ล้านบาท
ความคืบหน้าอาการ ไซมอน ยัม หรือ เยิ่นต๊ะหัว ดาราฮ่องกงชื่อดัง หลังถูกชายนิรนามขึ้นไปใช้มีดแทงเข้าที่ท้องและที่แขนบนเวที ขณะร่วมงานเปิดร้าน เป่ยจิง อีซีโฮม เมืองจงซาน มณฑลกวางตุ้ง ทางตอนใต้ของจีน ต่อหน้าแขกในงาน เว็บไซต์ เซาท์ ไชน่า มอร์นิงโพสต์ ในฮ่องกง รายงานว่า เยิ่นต๊ะหัว เดินทางกลับฮ่องกง แล้ว หลังเข้ารับการผ่าตัด และเข้าพักฟื้นต่อที่โรงพยาบาลแอดเวนทิสต์ บริษัทต้นสังกัด เอ็มเพรอร์ เอนเตอร์เทนเมนต์ กรุ๊ป แจ้งว่า เยิ่นต๊ะหัวเข้ารับการผ่าตัดในโรงพยาบาลที่จงซาน อาการดีขึ้น แผลที่ท้องทำให้อวัยวะภายในเสียหายเล็กน้อย ส่วนแผลที่แขนขวาก็รักษาแล้ว สำหรับคนร้าย ตำรวจเมืองจงซาน แถลงว่า เป็นคนในท้องถิ่น นามสกุล เฉิน อายุ 53 ปี เป็นโรคจิตเภท ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุ
แฟ้มภาพ
รมว.ต่างประเทศสหรัฐ พบ ประธานาธิบดีจีน ย้ำความเป็นพันธมิตร ไม่ใช่คู่ขัดแย้ง
...
กลุ่มฮามาส พร้อมปลดอาวุธหากปาเลสไตน์เป็นเอกราช
...
รรท.ผบ.ตร. ย้ำไม่อคติ ปม คำสั่งให้พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ออกจากราชการ
...
ข่าวทั้งหมด
