เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระเจ้าวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว จะมีขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม 2562 ซึ่งจะทรงเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครโดยขบวนพยุหยาตราชลมารคในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระราชพิธีเบื้องปลาย และการจัดขบวนพยุหยาตราในครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เส้นทางเสด็จพระราชดำเนินเริ่มจากท่าวาสุกรีถึงวัดอรุณราชวราราม รวมระยะทาง 4.2 กิโลเมตร ระหว่างเสด็จฯ จะมีการเห่เรือ ตามพระราชพิธีราชประเพณี
ในวันนี้ กองทัพเรือมีกำหนดการเชิญเรือพระที่นั่งอนันตนาคราช จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี และลากจูงไปยังอู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ และเชิญเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ลงน้ำและเลื่อนมาเทียบบริเวณท่าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี เพื่อเตรียมความพร้อมในการเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนคร โดยขบวนพยุหยาตราชลมารค
สำหรับกำหนดการฝึกซ้อมย่อยในแม่น้ำเจ้าพระยาจำนวน 10 ครั้ง จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม - 10 ตุลาคม และมีการซ้อมใหญ่ 2 ครั้ง ในวันที่ 17 ตุลาคม และ 21 ตุลาคม โดยเป็นการซ้อมเสมือนจริง และมีการเชิญเรือพระที่นั่งร่วมฝึกซ้อมด้วย
เวลา 17.45 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมหามงคลบำเพ็ญพระราชกุศลอุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล และพระพรชัยมงคลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2562 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ณ พระลานพระราชวังดุสิต
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 13.30 น. นายกาย ไรเดอร์ (Mr. Guy Ryder) ผู้อำนวยการใหญ่องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organization: ILO) เข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเนื่องในโอกาสเยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมด้านการศึกษาระดับโลก ครั้งที่ 8 และเยือนประเทศสมาชิกในโอกาสครบรอบ 100 ปี ILO
ส่วนวุฒิสภาวันนี้งดการประชุม แต่มีการจัดสัมมนาเรื่องการเตรียมความพร้อมของสมาชิกวุฒิสภาในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เกี่ยวกับการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ชุดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) ต่อรัฐสภา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 146(12) และมาตรา 162
การเมืองไทยในสัปดาห์นี้ติดตามนายกรัฐมนตรีจะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ โดยนโยบายรัฐบาลฉบับสมบูรณ์ ซึ่งสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี หรือ สลค. เป็นผู้จัดพิมพ์ ได้จัดส่งให้กับรัฐมนตรีตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ จากนั้นจะแจกให้กับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาต่อไป ส่วนสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล รับเล่มนโยบายในวันนี้
สำหรับนโยบายของรัฐบาล จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือนโยบายหลัก 12 ด้าน อาทิการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์, การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ, การทำนุบำรุง ศาสนาและวัฒนธรรม, การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การพัฒนา เศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของไทย, การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและการกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค, การพัฒนาสร้างความเข้มแข็งจากฐานราก, การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนาศักยภาพของไทยทุกช่วงวัย, การสาธารณสุข ความเสมอภาคและสวัสดิการที่เหมาะสมกับกลุ่มประชาชน, การฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน, การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ, การป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ และกระบวนการยุติธรรม
ส่วนนโยบายเร่งด่วน 12 ด้าน ได้แก่การแก้ไขปัญหาการดำรงชีวิตของประชาชน,การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน, การออกมาตรการเศรษฐกิจเพื่อรองรับการผันผวนของเศรษฐกิจโลก, การให้ความช่วยเหลือเกษตรกร, การพัฒนานวัตกรรมการยกระดับศักยภาพของแรงงาน, การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต, การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21, การแก้ไขปัญหาทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการทั้งฝ่ายการเมืองและฝ่ายข้าราชการประจำ, การแก้ไขปัญหา ยาเสพติดและความสงบสุขในพื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้, การพัฒนาระบบการให้บริการประชาชน, การสนับสนุนให้มีการศึกษาการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและดำเนินเพื่อแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ และการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง
ในระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม พรรคพลังประชารัฐ มีการจัดสัมมนาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคเพื่อเตรียมความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
จากนั้นในวันที่ 23 กรกฎาคมจะเป็นการประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ซึ่งจะมีการสรุปเวลาในการอภิปรายและเนื้อหา
นอกจากนี้แล้ว นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน จะประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงพลังงาน เกี่ยวกับวาระเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการหลังจากนี้ รวมถึงการแก้ไขปัญหาปากท้อง ส่วนปัญหาเรื่องราคาปาล์มน้ำมันที่ราคายังไม่สมดุล เพราะมีสต๊อกอยู่เป็นจำนวนมาก จึงต้องเร่งบริหารจัดการ เพื่อให้เกิดความสอดคล้อง และไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคา รวมถึงต้องมองภาพราคารวมต่างประเทศด้วย กับจะมีการทบทวนมาตรการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเรื่องพลังงาน
ส่วนพรรคอนาคตใหม่ มีการประชุมฝ่ายนโยบายเมื่อวันอาทิตย์ เพื่อกำหนดประเด็นการอภิปราย จากนั้นในวันที่ 24 กรกฎาคม ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ จะอภิปรายในญัตติต่างๆ ได้แก่ EEC รถไฟเชื่อมต่อสามสนามบิน การใช้สารเคมีในการเกษตร และผลกระทบของการกระทำ ประกาศคำสั่ง คสช.และการใช้อำนาจตามมาตรา 44
วันนี้ยังเป็นวันแรกที่นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะเข้ากระทรวงเพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำกระทรวง จากนั้นจะเป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูง เพื่อรับฟังรายงานภารกิจของหน่วยงานระดับกรม และผลการดำเนินงานในภาพรวมของกระทรวงฯ
ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะหารือกับรองนายกรัฐมนตรีที่ดูแลฝ่ายความมั่นคง เพื่อขอกำลังจากทหารมาช่วยเหลือดูแลการจัดรอบเวรน้ำ เนื่องจากภัยแล้งรุนแรง เกิดการขาดแคลนน้ำในทุกพื้นที่
ส่วนนายสิระ พิมพ์กลาง หัวหน้าพรรคเพื่อนไทย จะเข้าพบร.อ.ธรรมนัส ที่กระทรวง เพื่อนัดวันที่จะนำตัวแทนเกษตรกรมาเข้าพบเพื่อนำเสนอข้อมูล ปัญหาความเดือดร้อน เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นการมากดดันการทำงาน
ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เตือนว่า คณะรัฐมนตรีต้องยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช.ภายใน 60 วัน
...
ไทยเรียกทูตเขมรเข้าพบ ประท้วง เหตุ ฮุนเซนเผยแพร่คลิปเสียงคุยนายกฯ-เรียกร้องสามัคคีในชาติ
...
‘สว.’ ลงชื่อ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญ-ป.ป.ช. ถอดถอน ‘แพทองธาร’ จากตำแหน่ง ‘นายกฯ’ ซัดผิดจริยธรรม
...
เรืองไกร ยื่น กกต.สอบ นายกฯไม่สุจริต ปมคุยกับ ฮุนเซน ย้ำไม่ใช่แนวเจรจาระดับทวิภาคี
...
ข่าวทั้งหมด
