*กมธ.ยกร่างรธน.ไหว้พระแก้ว/นายกติง ใช้คำ ปัด ตีป๊๊บ ส่อเชิงลบ/ขึ้นค่าจ้าง320บาท

05 พฤศจิกายน 2557, 07:47น.


*ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.



+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคสช. ครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่ตึกสันติไมตรี โดยจัดเป็นประจำทุกเดือน  มติที่ประชุมเลือกนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ (เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า) เป็นประธาน กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สำหรับ กมธ.ยกร่างฯ อีก 5 คน สัดส่วนคสช.ได้แก่ นายสุจิต บุญบงการ อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนายจรูญ อินทจาร อดีตประธานศาลรัฐธรรมนูญ นายประสพสุข บุญเดช อดีตประธานวุฒิสภา นายบรรเจิด สิงคะเนติ คณบดีคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และนายกฤต ไกรจิตติ อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย และเอกอัครราชทูตไทยในหลายประเทศ



+++ส่วนกมธ.ยกร่างฯ ในสัดส่วนของครม. 5 คนคือ .นายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอดีต กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 นายเจษฎ์ โทณะวณิก คณบดีคณะนิติศาสตร์ปรีดี พนมยงค์ ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ นายปกรณ์ ปรียากร อดีตโฆษก กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ ปี 2550 นพ.กระแส ชนะวงศ์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ นายวิชัย ทิตตะภักดี ประธานคณะทำงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ



++++โดยตั้งแต่เวลา เวลา 06.30 น. กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 36 คนจะเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว และสักการะศาลหลักเมือง เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นทางการ จากนั้นจะเดินทางไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อทำกิจกรรมสร้างความสัมพันธ์และรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน และเวลา 13.00 น. จะมีประชุม กมธ.ยกร่างฯ อย่างไม่เป็นทางการ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแนวทางการดำเนินงาน ส่วนวันพรุ่งนี้ นายบวรศักดิ์ ในฐานะประธาน กมธ.ยกร่างฯ นัดประชุม กมธ.ยกร่างฯ นัดแรก เพื่อเลือกรองประธาน เลขานุการ โฆษก กมธ.และ ฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง



+++นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ  ตอบเมื่อถูกถามว่ารัฐธรรมนูญฉบับใหม่นี้อาจถูกตั้งฉายาว่ารัฐธรรมนูญสีชมพู หรือฉบับจุฬาฯ-นิด้า คอนเน็กชั่น รอง นายกฯ กล่าวย้อนว่า หากไปดูรายชื่อบุคคลจะเห็นว่ามีหลายสี ทั้งเขียวเหลือง แดง ชมพู ยืนยันว่าเมื่อตั้งบุคคลขึ้นมาไม่ได้นึกเลยว่าใครสีหรือคอนเน็กชั่นอะไร เพราะทุกคนมีด้วยกันทั้งนั้นแต่มีคอนเน็กชั่นไม่เป็นไร ขออย่าเป็น conspiracy (สมคบคิด) ก็แล้วกัน



+++สำหรับการทำงานของ กมธ.ยกร่างฯ ที่ต้องดำเนินการทันทีคือ การรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับกรอบการยกร่างจากส่วนต่างๆ จนถึงวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ซึ่งมีกรอบแนวทาง 4 กรอบ คือ 1.ดำเนินงานตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราว กำหนดไว้ 11 ด้าน ทบทวนองค์กรต่างๆ ที่มีอยู่เดิมว่าควรคงอยู่ไว้หรือไม่ เช่น องค์กรสิทธิมนุษยชน สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กกต. เป็นต้น 2.รับข้อเสนอของ สปช. 3.รับฟังความเห็นจากภาคประชาชน และ 4.กมธ.ต้องหารือกันเอง ทั้งนี้ ต้องยกร่างให้เสร็จภายใน 120 วัน นับตั้งแต่วันที่รับข้อเสนอ วันที่ 20 ธ.ค.ซึ่งจะครบตามกำหนดในวันที่ 19 เม.ย. 2558 และต้องนำไปรับฟังความคิดเห็นจากส่วนต่างๆ



+++ นายวิษณุเสนอให้ ครม.พิจารณาตั้งคณะทำงานติดตามการยกร่างรัฐธรรมนูญ ในช่วงเวลายกร่าง 120 วัน เพื่อรับเรื่องที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการ ควบคู่กับการติดตามการยกร่าง เช่น ครม.อาจต้องแก้กฎระเบียบ การดำเนินการกฎหมายลูก หรืออาจมีความพยายามจากฝ่ายต่างๆ ให้เกิดความชุลมุน ขัดขวางการดำเนินการ ทำให้ล่าช้า และก่อให้เกิดความไม่ปรองดอง ทั้งแนวคิดสุดโต่ง ต่อต้านการนำเสนอหลักการต่างๆ ในการยกร่าง หากมีข้อมูลที่อาจก่อให้เกิดสิ่งเหล่านี้



+++การประชุมร่วม ครม.และ คสช.ครั้งต่อไป วันที่ 9 ธ.ค.นี้ ซึ่งนายกฯ กำชับทิ้งท้ายเรื่องการทำงานของ สปช.และสภากระจกที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการคู่ด้วยนั้น อาจสร้างความสับสนได้ จึงให้ไปทำความเข้าใจและประสานทำงานร่วมกัน โดยให้ฝ่ายกฎหมายรับไปพิจารณาว่าจะประสานทั้งสองส่วนอย่างไร



 



+++พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงผลการประชุมครม.ว่า ในที่ประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์ ขอให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ติดตามความเคลื่อน ไหวอย่างใกล้ชิด ถ้าจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายก็ต้องทำ โดยให้เริ่มกฎหมายปกติก่อน จากมาตรการขั้นเบาไปหาหนัก ใช้กฎอัยการศึกหรือแม้แต่มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ให้อำนาจพิเศษไว้ หากจำเป็นต้องทำก็ต้องทำเพื่อให้บ้านเมืองสงบ" รองโฆษกรัฐบาลกล่าว



+++ขณะเดียวกัน นายกฯ ยกตัวอย่างด้วยว่าคำบางคำเป็นคำในเชิงลบ เช่นคำว่า  โว ฟุ้ง ปัด ตีปี๊บ ฮึ่ม ซึ่งเป็นคำในเชิงลบไม่สร้างสรรค์ ทำให้คนในสังคมฟังแล้วรู้สึกเหมือน เจ้าหน้าที่ขี้โม้ ไม่น่าเชื่อถือ แล้วอย่างนี้จะสร้างความเชื่อมั่นเชื่อถือให้กับผู้ปฏิบัติงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่มีต่อประชาชนได้อย่างไร



+++ส่วนในวันนี้ เวลา 14.00 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล



+++คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้หารือและทบทวนมีมติของคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยขอยืนยันว่า ในปี 2558 จะต้องมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 320บาทเนื่องจากไม่ได้ปรับขึ้นมากว่า 2 ปีแล้ว ส่วนหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการพิจารณาขอขึ้นค่าจ้างนั้น ได้มีการสำรวจข้อเท็จจริง เรื่องค่าครองชีพแรงงาน ในปี 2556 โดยพบว่า แรงงานจะต้องมีรายได้วันละ 460 บาท จึงจะเพียงพอต่อการดำรงชีพ โดยในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยจะขอเข้าพบกับพล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.แรงงาน เพื่อหารือและรับฟังความเห็นถึงกรณีดังกล่าวต่อไป



+++ตำรวจเร่งล่าตัวอดีตคนขับรถปาดคอชิงทรัพย์เจ้านายเก่า พบประวัติเคยเป็นหัวหน้าการ์ดกลุ่มคนเสื้อแดง พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี ผกก.สน.ทองหล่อ เปิดเผยเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายนนี้ คดีนางรัตนา เมธีพุทธิ อายุ 54 ปี เจ้าของบริษัท อะคูเท็คท์ จำกัด ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้า ถูกนายธีรพัฒน์ หรือต้น แก้วไชอินทร์ อายุ 38 ปี อดีตคนขับรถ ใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ปาดคอ แต่มีพลเมืองดีเข้าช่วยเหลือไว้ทัน ก่อนที่นายธีรพัฒน์จะขับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่นเอส 300 สีบรอนซ์เทา ทะเบียน 1 กน 8855 กรุงเทพมหานคร พร้อมทรัพย์สินที่อยู่ในรถของอดีตเจ้านายหลบหนี เหตุเกิดบริเวณลานจอดรถ ชั้นพี 4 อาคารโมเดิร์นทาวน์ ถนนสุขุมวิท 63 ซอยเอกมัย 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ว่า ขณะนี้ผู้บาดเจ็บพักรักษาตัวอยู่ รพ.กรุงเทพ แพทย์ได้ทำการรักษาเย็บและปิดบาดแผลไว้ อาการปลอดภัยดี ซึ่งทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไป คือ รถเบนซ์ กระเป๋าแบรนด์เนมยี่ห้อมิว มิว แหวนเพชร 3 กะรัต 1 วง มูลค่า 1.5 ล้านบาท ต่างหูเพชร โทรศัพท์ไอโฟน 4 เอส และเงินสด 10,000 บาท มูลค่าประมาณ 9 ล้านบาท ขณะที่กล้องวงจรปิดของอาคารสามารถบันทึกภาพคนร้ายไว้ชัดเจน จึงได้นำภาพไปให้ผู้บาดเจ็บและพยานชี้ตัวยืนยัน ระบุเป็นบุคคลเดียวกับที่ก่อเหตุ จึงทำการรวบรวมหลักฐาน ขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ออกหมายจับนายธีรพัฒน์ ข้อหา "ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และข้อหาพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันสมควร"



+++คลิปเหตุการณ์การทะเลาะวิวาทระหว่างผู้โดยสารบนขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส เนื่องจากมีคู่รักทอม-ดี้ แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่ สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS กล่าวว่า ขอความร่วมมือจากประชาชนที่ใช้บริการรถไฟฟ้าโดยสารของ BTS ทุกท่าน หากพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเช่นนี้ หรือพฤติกรรมอื่น แจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทันที โดยผู้โดยสารสามารถแจ้งได้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ในชานชาลา นายสถานี และที่สายด่วน 02-617-6000 โดยระบุรายละเอียดขบวนรถว่า กำลังวิ่งจากที่ไหนไปยังที่ไหน ขบวนที่เท่าไร ซึ่งมีเลขแจ้งอยู่ที่ประตู จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งไปยังสถานีต่อไป ให้เจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจเกี่ยวข้อง เข้าไปเจรจาพูดคุย ขอร้องให้ผู้ก่อเหตุหยุดพฤติกรรมดังกล่าว หากยังไม่ให้ความร่วมมือทาง BTS จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาเชิญตัวลงจากสถานีรถไฟฟ้าทันที อย่าไปตำหนิเอง เพื่อป้องกันการเกิดเหตุทะเลาะวิวาทและการทำร้ายร่างกาย หลังจากนี้จะขอดูเหตุการณ์อีกสักระยะหนึ่ง หากยังมีผู้โดยสารแสดงพฤติกรรมในทำนองนี้อีก ทางบริษัทฯอาจจำเป็นต้องออกมาตรการมาป้องกัน

ข่าวทั้งหมด

X