สภาผู้แทนฯสหรัฐ ผ่านร่างกฎหมายเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำรายชั่วโมง

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายของรัฐบาลกลางในการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำสู่ระดับ 15 ดอลลาร์/ชั่วโมง โดยจะเป็นการทยอยปรับขึ้นเป็นระยะ จากระดับปัจจุบันที่อยู่ที่ระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมง เป็น 8.40 ดอลลาร์ภายในปีนี้ จากนั้นจะเป็น 9.50 ดอลลาร์ในปี 2563 ส่วนในปี 2564 จะเป็น 10.60 ดอลลาร์ ปี 2565 จะเป็น 11.70 ดอลลาร์ เมื่อถึงปี 2566 ก็จะเป็น 12.80 ดอลลาร์ ปี 2567 จะเป็น 13.90 ดอลลาร์ และในปี 2568 จะอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ และกำหนดให้การขึ้นค่าจ้างในอนาคตอิงกับการขยายตัวของค่าจ้างเฉลี่ย

พรรคเดโมแครต ในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ฯ ระบุว่า การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเป็นรายชั่วโมงในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเพิ่มผลตอบแทนแก่แรงงาน หลังจากที่สภาคองเกรสมีมติปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำครั้งล่าสุดสู่ระดับ 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมงเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ขณะนี้ ใน 29 รัฐ และวอชิงตัน ดีซีต่างก็มีการจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำสูงกว่า 7.25 ดอลลาร์/ชั่วโมง ขณะที่ใน 7 รัฐมีการอนุมัติค่าจ้างขั้นต่ำที่ระดับ 15 ดอลลาร์/ชั่วโมงมานานแล้ว

และหลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรผ่านความเห็นชอบแล้ว ขั้นต่อไปคือการนำเข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาซึ่งพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก และระบุว่า จะยังไม่มีการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า เขาจะใช้สิทธิ์ยับยั้งร่างกฎหมาย แม้ได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาก็ตาม เพราะนโยบายของรัฐบาลสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ และเพิ่มรายได้แก่แรงงานอย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแผนการของพรรคเดโมแครต

ในส่วนของประเทศไทย เกี่ยวกับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ในวันนี้ ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. มีกำหนดหารือกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ในหลายประเด็นรวมถึงเรื่องค่าแรง ที่มีรายงานของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน หรือ กกร. ระบุว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวันในทันที จะกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอี จึงเสนอให้รัฐจ่ายเงินช่วยเหลือแรงงานด้วยการส่งสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนลูกจ้างร้อยละ 5 ของเงินเดือนเป็นการชั่วคราว 6-12 เดือน

...