นายปีเตอร์ ซาลามา ผู้ประสานงานด้านโรคไข้เลือดออกอีโบลาของกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(ยูนิเซฟ) กล่าวว่า ยูนิเซฟจะเพิ่่มเจ้าหน้าที่เป็น 2 เท่าจาก 300-600 คนใน 3 ประเทศในแถบแอฟริกาตะวันตกที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ กินี, ไลบีเรียและเซียร์รา ลีโอน การแถลงข่าวที่สำนักงานใหญ่ยูเอ็นในนครนิวยอร์คของสหรัฐฯในวันนี้ นายซาลามา กล่าวว่า เด็กๆคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของจำนวนคนไข้อีโบลาทั้งหมดใน 3 ประเทศนั้น
นายซาลามายังได้ตั้งข้อสังเกตุว่าเด็กๆราว 5 ล้านคนได้รับผลกระทบและมีเด็กๆราว 4,000 คนกลายเป็นเด็กกำพร้าจากการแพร่ระบาดของโรคอีโบลาในขณะนี้ ระบุว่าโรงเรียนหลายแห่งต้องปิดทำการ เด็กๆถูกกักอยู่ในบ้านและห้ามเล่นกับเด็กคนอื่นๆ พร้อมเพิ่มเติมว่าหากเราไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ โรคอีโบลาจะกระทบต่อโครงการต่างๆที่ยูนิเซฟได้ดำเนินการมาหลายปีเพื่อช่วยเหลือเด็กๆในประเทศเหล่านั้น โดยเฉพาะด้านการศึกษาและสาธารณสุข ดังนั้นภารกิจเร่งด่วนของยูนิเซฟในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้าคือการระดมเจ้าหน้าที่และทรัพยากรไปช่วยควบคุมโรคในพื้นที่ดังกล่าว ด้านองค์การอนามัยโลกประเมินว่า การแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในขณะนี้มีคนเสียชีวิตแล้วราว 5,000 คน