สนง.โยธาฯ สมุทรสงคราม สั่งรื้อหลังคาโป๊ะและท่าเรือเเสงวนิช ใกล้ศาลาริมน้ำที่พังถล่ม

18 กรกฎาคม 2562, 12:46น.


หลังจากเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่นำร่างน.ส.พรพิไล เสือเล็ก อายุ 24ปี ที่สูญหายจากเหตุการณ์ศาลาริมน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงครามถล่มขึ้นมาได้และนำส่งโรงพยาบาลพระพุทธเลิศหล้าแล้ว บรรยากาศบริเวณจุดเกิดเหตุขณะนี้ เจ้าหน้ากู้ภัยได้ถอนกำลังและนำอุปกรณ์ เช่น รถเครน ออกจากพื้นที่แล้วหลังเสร็จสิ้นภารกิจนำร่างน.ส.พรพิไลขึ้นมา ส่วนโครงสร้างศาลาบางส่วนที่ยังอยู่ในน้ำเจ้าหน้าที่จะวางแผนนำขึ้นมาอีกครั้ง นายเกื้อกูล สถาพรวจนา วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ สำนักงานโยธาธิการเเละผังเมืองจังหวัดสมุทรสงคราม เดินทางมาตรวจสอบความมั่นคงของศาลาและตลิ่งริมน้ำที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ  พบว่าสาเหตุหลักของการถล่มครั้งนี้ เกิดจากบริเวณนี้มีท่าเรือและมีเรือเข้า-ออกตลอดเวลา ทำให้น้ำกัดเซาะตลิ่ง รวมถึงศาลามีอายุประมาณ40-50ปี และเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก หากมีอายุ 50 ปี ก็จะเริ่มเสื่อม โดยศาลาที่ถล่มเป็นของวัดเพชรสมุทรวรวิหาร หากตั้งอยู่บนพื้นดินปกติ ก็จะไม่มีปัญหา  เเต่เนื่องจากอยู่ริมน้ำ เมื่อเกิดการกัดเซาะ จึงไม่มั่นคง ก่อนจะเกิดเหตุ สำนักงานโยธาเคยทำเรื่องของบประมาณปี2563 เพื่อปรับปรุงพื้นที่เเละภูมิทัศน์ โดยจะรื้อศาลาดังกล่าวออก แล้วก่อสร้างเขื่อนตลอดเเนวชายฝั่งป้องกันน้ำเซาะตลิ่งเพิ่มเติม และเเก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยการทำเป็นทางลาดลงไปในเเม่น้ำเพื่อให้ประชาชนเเละนักท่องเที่ยว ชมความสวยงามของเเม่น้ำเเม่กลอง เเต่กลับมาเกิดเหตุขึ้น



นอกจากนี้ จากการตรวจสอบศาลาบริเวณนี้พบว่า ศาลาแฝดที่อยู่ติดกับศาลาที่ถล่มไม่ปลอดภัย ตอนนี้กันไม่ให้เข้าพื้นที่เด็ดขาด คาดว่าจะรื้อถอนได้ปลายปีนี้หรือต้นปี 2563 



ถัดจากศาลาก็จะมีโป๊ะและท่าเทียบเรือเเสงวนิช ที่เริ่มเอนแล้ว ได้สั่งการให้เร่งรื้อตัวหลังคาที่เอนออก หลังจากนี้จะให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับกองช่างตรวจสอบอาคารริมน้ำในเขตพื้นที่ว่ามีจุดไหนเสื่อมหรือเสี่ยงหรือไม่ หากพบให้รีบเเจ้งเพื่อพิจารณาว่าจะทำการซ่อมเเซมหรือรื้อถอน ส่วนการเยียวยาผู้ประสบภัย นายนิทรารัตน์ แพทย์วงศ์ ประธานสภาทนายความจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวว่า  หลังเกิดเหตุมีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนต่อสภาทนายความหลายราย จึงขอเป็นตัวกลางประสานงาน ระหว่างผู้เสียหายกับวัดและเทศบาลซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบว่าจะเยียวยาค่าเสียหายอย่างไร  คาดว่าจะเจรจากันได้ เเต่ถ้าหากเจรจากันไม่ได้ สภาทนายความจังสมุทรสงคราม ยินดีที่จะเป็นตัวกลางเเละช่วยเหลือ ในการฟ้องร้องตามกระบวนการต่อไป แต่ตอนนี้เบื้องต้นจังหวัดและหน่วยงานราชการอื่นๆได้ลงพื้นที่มาดูเเล้ว ไม่ได้ละทิ้ง คาดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร น่าจะจบลงด้วยดี



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X