เจ้าหน้าที่ ปรับแผนใช้เครน 50 ตัน ยกโครงสร้างศาลาริมน้ำเพื่อหาผู้สูญหาย

17 กรกฎาคม 2562, 21:22น.


ความคืบหน้าเหตุศาลาริมน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงคราม ถล่มลงมา นายประจินต์ ธารศิริสิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงครามและรักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม ในฐานะผู้อำนวยการจังหวัด กล่าวถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในวันนี้ว่า  ตลอดช่วงเช้าได้ปูพรมค้นหาผู้สูญหาย 2 วิธี คือ กรมเจ้าท่าและตำรวจน้ำ ค้นหาตามน่านน้ำในรัศมีประมาณ 7-8 กิโลเมตรจากจุดเกิดเหตุ แต่ไม่พบร่าง จึงกลับมาเน้นระดมค้นหาจุดเกิดเหตุ ซึ่งจากการสอบถามคนใกล้ชิด พบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้สูญหายอยู่ที่บริเวณด้านขวาของศาลา จึงคาดว่าร่างจะติดอยู่ที่จุดนี้ ซึ่งเป็นจุดลาดเอียงและลึกที่สุด ยังไม่สามารถยกโครงสร้างอาคารออกได้ เนื่องจากหลังคาศาลาหนัก 20 ตัน พื้น  เสา  คาน หนัก 60 ตัน เกินพิกัดการทำงานของรถเครนในวันนี้ที่มีน้ำหนักเพียง 25 ตัน โดยวันนี้ได้ใช้รถเครนยกโครงสร้างออกมา  มีการสั่นสะเทือนและกระแสน้ำเชี่ยวมาก ทำให้โครงสร้างอาคารลาดเอียงลงไปจากเดิม 40-45 องศา เป็น 90 องศา  จึงได้มีการปรับแผนใหม่ พรุ่งนี้จะนำเรือโป๊ะชนิดมีเครนขนาด 50 ตัน มายกตัวโครงสร้างอาคารร่วมกับรถเครน ซึ่งจะทำควบคู่ไปกับทีมนักประดาน้ำที่จะเข้าไปรื้อถอนทำลายกระเบื้อง  มุมหลังคา  ฝ้าเพดาน เพื่อลดน้ำหนักโครงสร้างอาคาร ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้เกิน 24 ชั่วโมงแล้ว หากร่างติดอยู่จะอิ่มน้ำและจะลอยขึ้นมา อุปสรรคยังคงเป็นกระแสน้ำเชี่ยวขึ้น-ลง แต่เจ้าหน้าที่จะทำงานต่อเนื่องจนกว่าจะได้รับแจ้งว่า มีความไม่ปลอดภัยกับนักประดาน้ำ ส่วนใครจะเป็นผู้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ขณะนี้อยากให้เน้นไปที่เรื่องการนำร่างผู้สูญหายขึ้นมา และการเยียวยาผู้ประสบเหตุก่อน คำนึงถึงความรู้สึกญาติและครอบครัวของผู้สูญหายมากที่สุด



ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ



 

ข่าวทั้งหมด

X