พ่อกู้ภัยเปิดใจ ช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่ยังหาลูกไม่เจอ! เร่งกู้ซากศาลาริมน้ำถล่ม

17 กรกฎาคม 2562, 11:22น.


การค้นหาผู้สูญหายจากเหตุศาลาริมน้ำวัดเพชรสมุทรวรวิหาร จังหวัดสมุทรสงครามถล่ม ทำให้มีผู้สูญหาย 2 ราย เมื่อวานนี้พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ยังสูญหายอีก1ราย เจ้าหน้าที่เร่งระดมค้นหา  โดยวันนี้จะแบ่งการทำงานออกเป็น2ชุดใหญ่ คือ ชุดแรก ยังคงดำน้ำค้นหาใต้น้ำ โดยเฉพาะจุดที่ศาลาถล่ม จุดนี้จะมีซากปรักหักพังของศาลาและซากร้านค้าอยู่ จะเคลื่อนย้ายนำขึ้นฝั่ง เพื่อให้นักประดาน้ำค้นหาร่างผู้สูญหายได้ง่ายขึ้น จะแบ่งชุดนักดำน้ำเป็น2ชุด ชุดละ 2 นาย ชุดหนึ่งดำน้ำในแนวเส้นบริเวณศาลาถล่ม นักประดาน้ำจะนำเชือกเข้าไปเกี่ยวสิ่งของใต้น้ำ และใช้เครนน้ำหนัก25กิโลกรัมยกขึ้นมา ส่วนอีกชุดจะดำน้ำนอกแนวเชือก หรือนอกบริเวณที่ศาลาถล่มห่างออกไปเล็กน้อย



ชุดสองให้กรมเจ้าท่าและตำรวจน้ำ ค้นหาร่างผู้สูญหายในระยะห่างออกไป1-2กิโลเมตร เนื่องจากเข้าสู่วันที่2แล้ว ร่างอาจจะลอยตามกระแสน้ำไป



สำหรับศาลาที่ถล่มนี้ มีอายุประมาณ 50 ปี ส่วนอีกศาลาที่อยู่ข้างๆติดกัน เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปโดยเด็ดขาด เพราะเกรงจะเกิดเหตุซ้ำซ้อน





นายสุเมธ ธีรนิติ ปลัดจังหวัดสมุทรสงคราม เปิดเผยว่า  นักประดาน้ำเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่ 08.00 น.เป็นต้นมา ซึ่งพบว่าสภาพศาลาที่ถล่มลงไปมีความลาดเอียงออกไปด้านนอกฝั่ง มีสิ่งของขนาดใหญ่ไหลลงไปกองรวมกัน ซึ่งนักประดาน้ำพยายามที่จะดึงออก แต่ดึงไม่ออก จึงต้องนำเชือกไปมัดเพื่อดึงเปิดทางเข้าไปค้นหา ส่วนความพยายามที่จะไม่ใช้เครนในการกู้ซาก เพราะจะทำให้ภายใต้น้ำเกิดแรงสั่นสะเทือนจนทำให้ศาลาทรุดลงลึกไปอีก และอาจจะกระทบกับบ้านเรือนที่อยู่ริมฝั่ง ยากต่อการค้นหา ซึ่งจุดค้นหามีความลึกประมาณ 6 เมตร ตอนนี้น้ำเริ่มนิ่งเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ แต่ถ้าน้ำกลับมาเชี่ยวและเพิ่มระดับอีก ก็จะทำให้มีความลึกเพิ่มเป็น 8 เมตร  นอกจากกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวแล้ว



อุปสรรคสำคัญอีกอย่างคือ น้ำมีสีขุ่นมาก ทำให้มองเห็นได้ยาก ต้องใช้มือสัมผัส และต้องระวังของมีคม นอกจากนั้น ยังมีการออกเรือลาดตระเวนค้นหาในรัศมีห่างออกไป5กิโลเมตรเพราะหากผู้สูญหายไม่ได้ติดอยู่ใต้ซากศาลาก็อาจจะลอยขึ้นมาเหนือน้ำจุดใดจุดหนึ่ง





ด้านนายวินัย เสือเล็ก พ่อผู้สูญหาย เล่าว่า ไม่ทราบมาก่อนว่าลูกมาทานข้าวเที่ยงที่นี่ ซึ่งขณะเกิดเหตุ ลูกมาทานข้าวกับเพื่อนอีก1คน เพื่อนลูกได้รับบาดเจ็บที่แขน หลังเกิดเหตุแล้วตนเองได้เข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ตอนแรกไม่ทราบว่าลูกคือหนึ่งในผู้สูญหาย จนมาทราบภายหลัง พร้อมตัดพ้อทั้งน้ำตาว่า ตนเองช่วยเหลือคนอื่นได้ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือลูกสาวตัวเองได้





 



ผู้สื่อข่าว ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ 

ข่าวทั้งหมด

X