ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562

17 กรกฎาคม 2562, 07:28น.


ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2562



+++พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำรัสถึงการปฏิบัติหน้าที่แก่นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีความว่า “ถือโอกาสนี้ให้พรให้ท่านมีกำลังใจ มีความมั่นใจ และความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ได้ตามคำถวายสัตย์ปฏิญาณ ทั้งนี้ เพื่อความสุขและความมั่นคงของประเทศชาติและประชาชน งานใดๆก็ต้องมีอุปสรรคงานใดๆก็ต้องมีปัญหา เพราะฉะนั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องแก้ปัญหา และเข้าหางาน เพื่อให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามสถานการณ์ โดยแก้ไขให้ตรงเป้าตรงจุดและมีความเข้มแข็งอดทน ก็ขอให้คณะรัฐมนตรีและรัฐบาลได้มีกำลังใจ มีพลังที่จะปฏิบัติหน้าที่ด้วยดี ด้วยความถูกต้องต่อไป”



+++ภายหลังเข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ทุกคนปลื้มปีติที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ทุกคนได้ถวายสัตย์ปฏิญาณว่าจะทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดเพื่อประเทศชาติและประชาชนต่อไป พระองค์ท่านได้พระราชทานกำลังใจให้ ครม.ทั้งหมด ให้ทำงานได้ดีอย่างที่ตั้งใจไว้ ทำให้ทุกคนปลาบปลื้ม หลังจากนี้จะประชุม ครม.เพื่อทำความเข้าใจ คงไม่มีอะไรมากนัก เพราะทุกคนคุ้นเคยกันอยู่แล้ว มีประสบการณ์มากกว่าตนด้วยซ้ำ แต่จะคุยกันว่าต่อจากนี้จะทำงานร่วมกันได้อย่างไร



+++ที่ประชุม ครม.ยังเห็นชอบแต่งตั้งนายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่วนตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังไม่มีการแต่งตั้งกำลังหาอยู่ กำลังพิจารณาทั้งคนนอกและคนใน ยังมีตำแหน่งรองโฆษกรวมทั้งหมด 3 คน ซึ่งคุณสมบัติของโฆษกรัฐบาลต้องรอบรู้ เข้าใจการเปลี่ยนแปลงประเทศ โลกในยุคโซเชียลดิจิทัล รวมถึงรู้ในระบบราชการ



+++ช่วงหนึ่งผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศได้ถาม พล.อ. ประยุทธ์เป็นภาษาอังกฤษว่า จะให้ความมั่นใจได้หรือไม่ว่า หลังจากนี้จะไม่ใช้คำสั่ง คสช.เกี่ยวกับการเรียกปรับทัศนคติอีก โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้ให้ผู้ประสานงานได้ช่วยแปลเป็นภาษาไทย พร้อมตอบว่า มันไม่มีแล้ว จะมีตรงไหนอีก วันนี้มีแต่กฎหมายปกติ ขณะนี้ได้ยกเลิกกฎหมายพิเศษไปหมดแล้ว กฎหมายพิเศษจบไปพร้อมกับรัฐบาลชุดที่แล้ว อย่าพูดย้อนกลับไปกลับมาอีก เมื่อถามว่า มีความมั่นใจในการควบคุมดูแลกระทรวงกลาโหมอย่างไรบ้าง พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถาม พร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ ก่อนส่งสัญลักษณ์มือ ไอเลิฟยูให้กับผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี



+++นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบร่างนโยบายของรัฐบาล โดยนายกฯบอกให้รัฐมนตรีดูแลเรื่องที่ตัวเองรับผิดชอบ ถ้ามีการพาดพิงต้องชี้แจงให้ได้ ในร่างนโยบายมีการบรรจุเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และกัญชาเสรีด้วย ร่างนโยบายนี้ทุกคนต่างเห็นด้วยไม่มีใครท้วงติงใดๆ ถือว่านโยบายของทุกพรรคได้รับการตอบสนองทั้งหมด หลังจากนี้จะนำกลับไปจัดทำเป็นรูปเล่มก่อนเสนอให้รัฐสภาพิจารณาต่อไป



+++นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย กล่าวว่า ในร่างนโยบายมีการเขียนสนับสนุนให้มีการศึกษาแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่าจะให้ใครเป็นผู้เสนอ แต่มีหลายช่องทาง ทั้งให้ภาคประชาชนเสนอ ให้ ส.ว.เสนอ โดยให้อยู่ในวาระเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินการภายใน 1 ปี



+++ที่ประชุม ครม.ยังมีมติเห็นชอบมอบหมายให้รองนายกฯรักษาราชการแทนนายกฯ ตามลำดับดังนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายวิษณุ เครืองาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หากผู้รักษาราชการแทนจะสั่งการใดเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล และการอนุมัติเงินงบประมาณอันอยู่ในอำนาจของนายกฯได้ ต้องได้รับความเห็นชอบจากนายกฯก่อน



+++ด้านพรรคฝ่ายค้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลในขั้นต้นจะมีรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายเรื่องคุณสมบัติจำนวนมาก ตั้งแต่ตัวนายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลฯ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.สำนักนายกฯ ถึงเวลาที่ พล.อ.ประยุทธ์ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับโลกแห่งความเป็นจริง ที่ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเข้มแข็ง หากเคารพและเชื่อมั่นประชาชน ต้องเปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายทำหน้าที่



+++พล.ต.ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ. รมน.) กล่าวว่า กรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) โอนอำนาจให้ กอ.รมน.สามารถเชิญบุคคลเข้ามาปรับทัศนคติได้นั้น ยืนยันไม่ได้โอนอำนาจดังกล่าวให้ กอ.รมน. ในทางปฏิบัติไม่สามารถทำได้ แต่กฎหมายดูแลความเรียบร้อยที่ใช้อยู่คือ พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เมื่อมีสถานการณ์ขึ้นจะประกาศใช้แล้วต้องมีการใช้กำลังตามมาตรา 16 กอ.รมน.โดยผู้บัญชาการเหตุการณ์ที่ถูกแต่งตั้งจากนายกฯ จะเลือกใช้อำนาจหน้าที่ให้สอดคล้องอย่างไร ส่วนการเชิญตัวบุคคลอยู่ในมาตราที่ 13/1 ข้อที่ 7 ของ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ มีคณะกรรมการระดับจังหวัด โดย ผวจ.เป็น ผอ.กอ.รมน.จังหวัด และเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเป็นคณะกรรมการ และเชิญมาให้ข้อมูลไม่ใช่การเรียกตัวมาสอบปากคำกักขัง เป็นกฎหมายคนละอย่างกับ คสช.



+++สำหรับการแต่งตั้งโยกย้ายในสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ลงนามในคำสั่งสำนักงาน กกต. ปรับย้ายนายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการ กกต.ด้านบริหารการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ ที่รับผิดชอบการจัดการเลือกตั้ง ส.ส.วันที่ 24 มี.ค. ไปเป็น ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง โดยให้นายเมธา ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการ กกต.ด้านการมีส่วนร่วม ปฏิบัติหน้าที่แทน และให้นายไพบูลย์ เหล็กพรหม ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง เป็นรองเลขาธิการ กกต.ด้านการมี ส่วนร่วม มีผลตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค.เป็นต้นไป



+++สาเหตุการปรับย้ายเนื่องจากการจัดเลือกตั้งที่นายณัฏฐ์รับผิดชอบถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เกิดความผิดพลาดหลายเรื่อง ไม่สามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจและเชื่อมั่น กกต.ได้ แม้ตำแหน่ง ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จะเป็นผู้บริหารระนาบเดียวกับรองเลขาธิการ กกต. แต่เป็นที่รู้กันว่ามีศักดิ์ต่ำกว่า ถือเป็นการย้ายลดชั้นเพื่อลงโทษ ขณะที่นายณัฏฐ์โพสต์เฟซบุ๊กเพียงสั้นๆว่า “หนังเศร้าแต่ฉันก็โอเคเพราะอยู่คนเดียว” โดยมีเจ้าหน้าที่ พนักงานและลูกจ้าง กกต.พากันเข้าไปโพสต์ให้กำลังใจ



+++พ.ต.อ.จรุงวิทย์กล่าวว่า การโยกย้ายครั้งนี้เป็นเรื่องของสำนักงาน กกต. และฟังความเห็นจาก กกต.ด้วย เมื่อถามว่า สาเหตุมาจากปัญหาการจัดการเลือกตั้งที่ผ่านมาหรือไม่ เลขาธิการ กกต.ตอบว่า ไม่ได้เป็นประเด็นหลัก ทุกอย่างพิจารณาตามความเหมาะสม สำหรับ ผอ.สถาบันพัฒนาการเมืองถือว่ามีงานที่ใหญ่รออยู่ เพราะสำนักงาน กกต.กำลังจัดตั้งสถาบันวิทยาการการเมือง ได้พูดคุยกับนายณัฏฐ์แล้ว ยืนยันไม่ได้ออกคำสั่งกะทันหัน



+++ยังคงต้องติดตามเหตุการณ์ศาลาริมน้ำ วัดเพชรสมุทรทรุดตัว จมลงในน้ำ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ศพ และยังคงสูญหายอีก 1 คน เป็นผู้หญิงทั้งคู่  สำหรับผู้บาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ในรพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้าฯ 7 คน สำหรับอาคารแห่งนี้คาดว่าสร้างเมื่อประมาณปี 2515 หรือ 47 ปี



+++นายวินัย เสือเล็ก พ่อของ น.ส.พรพิไล ผู้สูญหาย กล่าวว่า ตนเป็นอาสาสมัครของหมู่บ้าน ช่วงบ่ายลูกสาวคนโตโทรแจ้งว่ามีเหตุศาลาถล่ม จึงรีบเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อมาถึงก็ช่วยอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ จนตอนหลังทราบว่าลูกสาวของตนเป็นหนึ่งในผู้ที่สูญหายด้วยก็รู้สึกหมดแรง ไม่คิดว่าลูกจะอยู่ในเหตุการณ์ โดยทราบว่าลูกสาวมากินข้าวช่วงพักกลางวันกับเพื่อนอีก 2 คน ก่อนเกิดเหตุนั่งกินข้าวได้ยินเสียงดังลักษณะศาลาร้าวก่อนจะร่วงลงไปในน้ำ ซึ่งเพื่อนลูกบอกว่าทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ส่วนตัวยอมรับว่าความหวังในตอนนี้เหลือน้อยมาก แต่ก็ขอแค่ให้เจ้าหน้าที่ช่วยนำร่างลูกตนขึ้นมาให้ได้ ไม่ว่าจะในสภาพใด ทั้งนี้ นายวินัยกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตอนแรกตนมีหวังว่าลูกจะรอดชีวิต

ข่าวทั้งหมด

X