ดร.วัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตลาดโบ๊เบ๊ เป็นจุดที่มีการร้องเรียนจากประชาขนมากที่สุด ทั้งด้านความไม่เป็นระเบียบ และยากต่อการสัญจรทั้งบนทางเท้าและบนถนน กทม.จึงจำเป็นต้องจัดระเบียบให้สามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งผู้ค้าและประชาชนทั่วไป จากการสำรวจพบมีแผงค้า 977 แผง แต่เมื่อเปิดให้ผู้ที่ต้องการค้าขายเข้ามาลงทะเบียน กลับมีมากกว่า 1,000 แผง กทม.จึงหารือกับสหกรณ์ผู้ค้าย่านโบ๊เบ๊ และจัดให้มีการจับสลากแผงค้า สามารถจัดระเบียบได้ดังนี้ ในช่วงกลางวันเวลา 09:00-15:00 น. อนุญาตให้ขายได้จำนวน 200 แผง โดยใช้เต๊นท์ผ้าใบสีเขียว ตั้งแนวเดี่ยวชิดด้านริมคลองผดุงกรุงเกษม ตั้งแต่ป้ายรถเมล์ตรงข้ามโรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ ถึงสะพานโบ๊เบ๊ 2 ส่วนช่วงกลางคืนเวลา 23.00-05.00 น. อนุญาตให้ขายได้ 650 แผง ใช้เต๊นท์ผ้าใบสีชมพู ตั้งแผงขายไว้ 2 แถว เว้นทางเดินตรงกลาง เพิ่มพื้นที่จากป้ายรถเมล์ตรงข้ามโรงแรมปริ๊นซ์พาเลซ ถึงเชิงสะพานลอยแยกกษัตริย์ศึก และตั้งแต่ท่าน้ำตรงข้ามกระทรวงพัฒนาสังคมฯ ถึงสะพานข้ามคลองผดุงกรุงเกษม
ทั้งนี้ระหว่างการตรวจการจัดระเบียบ มีชาวบ้านในพื้นที่ส่วนหนึ่งไม่พอใจ หลายคนขอยื่นหนังสือ และร้องไห้ขอความเป็นธรรม โดยให้เหตุผลว่า ตนเองค้าขายมานาน และมองว่าเจ้าหน้าที่แก้ปัญหาไม่ตรงจุด ในประเด็นนี้ พล.ต.ต. วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กทม.จำเป็นต้องยึดผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และยอมรับว่าอาจมีผู้ค้าบางส่วนที่ไม่พอใจ ยืนยันผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ที่มีแผงค้ามากกว่า 2 แผง และยังพบว่าบางคนมีชื่อจับสลากแผงค้า แต่กลับนำแผงค้าไปให้ผู้อื่นเช่าต่อ และยังพบการสวมสิทธิ์จับสลากทั้งที่ไม่เคยค้าขายมาก่อนด้วย ซึ่งหลักจากนี้จะมีกระบวนการตรวจสอบ และหากผู้ค้ารายใดที่ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ยังมีแผงค้ารองรับในช่วงกลางวันเหลืออีก 60 แผง และกลางคืนอีก 120 แผง
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกทม.ดำเนินการจัดระเบียบทางเท้าเกือบครบแลัวทั้ง 22 จุดใน 19 เขต ซึ่งสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ต่อที่ตลาดท่าเตียน และตลาดท่าช้าง ส่วนจุดที่เคยดำเนินการมาแล้วเช่น รามคำแหง สุขุมวิท และสีลม ได้มอบหมายให้แต่ละสำนักงานเขตเป็นผู้ดูแลรับผิดชอบต่อ
..ผสข.อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์