TDRI ไม่ให้คะแนนผลงาน 5 ปี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ชี้รัฐบาลชุดใหม่จะถูกท้าทายมากขึ้น

10 กรกฎาคม 2562, 17:01น.


การประเมินผลงานตลอด 5 ปีของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ ระบุว่า ไม่ขอให้คะแนนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ แต่มองว่านโยบายการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน, การแก้ปัญหาเรื่องเร่งด่วนต่างๆ และนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ถือเป็นนโยบายเด่นที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทำได้สำเร็จ ส่วนปัญหาการทุจริตของคนในรัฐบาล, การเอื้อประโยชน์ให้คนบางกลุ่ม และการออกกฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ถือเป็นนโยบายที่ผิดพลาดของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ส่วนการใช้ม.44 มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือสามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ แต่ข้อเสียคือ มีการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ส่งผลเสียต่อคนวงกว้าง



นายสมเกียรติ เชื่อว่า รัฐบาลชุดต่อไปของพล.อ.ประยุทธ์ จะถูกท้าทายมากขึ้น แม้จะมีความชอบธรรมจากการเลือกตั้ง แต่เนื่องจากไม่มีม.44 แล้ว จึงแนะนำว่ารัฐบาลควรเปิดโอกาสให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมให้มากขึ้นควบคู่กับการหาวิธีร่วมงานกับทุกฝ่ายให้ได้จะทำให้ทุกอย่างขับเคลื่อนได้ดี นอกจากนี้รัฐบาลควรมองถึงการแก้ปัญหาต่างๆในระยะยาวและสานต่อสิ่งที่ดีที่ทำไว้ เช่น บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ



สำหรับการประเมินผลงานรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ของทีดีอาร์ไอในวันนี้ไม่มี การประเมินด้านความมั่นคง  แต่แบ่งการประเมินเป็น 11 ด้าน การแก้ปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมาย, การปลดธงแดงจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO), การจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ รวมไปถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ โดยเฉพาะการสร้างรถไฟฟ้าหลายสายในกรุงเทพฯ ซึ่งมาจากการมี มาตรา 44 และการตรวจสอบถ่วงดุลที่น้อยกว่ารัฐบาลปกติ ทำให้รัฐบาลทำงานได้สะดวกขึ้น แต่ในทางกลับกันการใช้อำนาจนี้ก็ส่งผลให้เกิดการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชนและเกิดผลเสียต่อประเทศหลายครั้ง เช่น การออกคำสั่งม.44 อุ้มผู้ประกอบการโทรศัพท์เคลื่อนที่ส่งผลทำลายความน่าเชื่อถือในการประมูลคลื่นความถี่ในอนาคต, การใช้ม.44 ยกเลิกการสรรหาคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน ์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) ซึ่งเป็นการแทรกแซงองค์กรอิสระให้อยู่ใต้อาณัติของรัฐบาล รวมถึงส่งผลให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลบริหารประเทศแบบรวมศูนย์อำนาจ การทำงานที่ขาดความเข้าใจที่ถูกต้องของรัฐบาลยังส่งผลให้แก้ปัญหาไม่ตรงประเด็น เช่น เรื่องข้าวที่รัฐบาลเข้าใจว่า การลดความต้องการขายข้าวในประเทศลงจะทำให้ราคาข้าวสูงขึ้น ทั้งที่ราคาข้าวถูกกำหนดจากราคาในตลาดโลก



ทีดีอาร์ไอ ยังประเมินว่า การปราบปรามการทุจริตที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยกให้เป็นเรื่องสำคัญก็ยังมีความไม่โปร่งใสและไม่เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะจากตัวบุคคลในรัฐบาลเอง ทั้งคดีอุทยานราชภักดิ์, คดีนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รวมถึงหน่วยงานรัฐวิสาหกิจก็ยังมีการคอรัปชั่นและผูกขาด พร้อมเสนอให้ยุบหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อประชาชน

ข่าวทั้งหมด

X