ทันสถานการณ์โลก 06.30 น. 9 กรกฎาคม 2562

อิหร่านประกาศว่าเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมได้ถึงระดับร้อยละ 4.5 แล้ว ซึ่งเป็นระดับที่เกินเกณฑ์ร้อยละ 3.37 ที่กำหนดไว้ในความตกลงนิวเคลียร์ ต่อเนื่องจากที่ประกาศว่า เก็บสำรองยูเรเนียมสมรรถนะต่ำไว้มากกว่าปริมาณที่เคยตกลงไว้ในความตกลงนิวเคลียร์ฉบับเดียวกัน และจะมีการดำเนินการต่อในขั้นที่ 3 ภายใน 60 วัน หากประเทศในความตกลงยังไม่สามารถช่วยเหลืออิหร่านที่ได้รับความเสียหายจากการที่สหรัฐฯใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านเพียงฝ่ายเดียว

ทั้งนี้กระทรวงพลังงานปรมาณูอิหร่าน ระบุว่า กำลังมีการหารือเกี่ยวกับการดำเนินการขั้นตอนที่สาม ระหว่างการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้ถึงระดับที่มากกว่าร้อยละ 20 หรือจะเปิดเครื่องหมุนเหวี่ยงเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ไออาร์-2 และไออาร์-2 เอ็ม ที่มีการรื้อถอนออกไปตามความตกลงนิวเคลียร์

โดยการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมในระดับร้อยละ 20 ถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญที่จะนำไปสู่การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมฟิสไซล์บริสุทธิ์ถึงร้อยละ 90 สำหรับใช้ผลิตระเบิดนิวเคลียร์

ส่วนเครื่องหมุนเหวี่ยงที่อิหร่านมีอยู่ 1,000 ตัวในโรงงานเสริมยูเรเนียมที่นาทานซ์ แต่ปัจจุบันมีการเปิดใช้งานเพียง 2 ตัวเท่านั้น

ด้านสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล หรือไอเออีเอ แถลงว่า อิหร่านเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมสูงกว่าระดับร้อยละ 3.67 ที่มีการระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านปี 2558 แต่ยังต่ำกว่าระดับร้อยละ 20 ที่เป็นข้อตกลงที่เคยทำไว้ก่อนการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ในปี 2558

กลุ่มประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู เรียกร้องให้อิหร่านเปลี่ยนใจเรื่องการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียม และจะมีการประชุมฉุกเฉินของกลุ่มประเทศที่ลงนามในข้อตกลงฉบับนี้ คือ รัสเซีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร จีน และเยอรมนี

ส่วนกรณีที่สหรัฐฯ ขอให้เยอรมนีส่งทหารเข้าร่วมในกองกำลังนานาชาติในซีเรีย เพื่อทำสงครามปราบปรามกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส

นายสเตฟเฟน ไซเบิร์ต โฆษกรัฐบาลเยอรมนี แถลงว่า รัฐบาลเยอรมนีปฏิเสธคำร้องของสหรัฐฯ โดยจะให้การสนับสนุนภายใต้ข้อตกลงเดิมภายในกรอบการทำงานของกลุ่มแนวร่วมต่อต้านไอเอส ซึ่งไม่รวมถึงการส่งทหารเข้าสู่ซีเรีย

โดยเมื่อวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อน นายเจมส์ เจฟฟรีย์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฝ่ายกิจการซีเรีย และเป็นตัวแทนพิเศษของกลุ่มแนวร่วมในการต่อต้านไอเอสเรียกร้องให้รัฐบาลเยอรมนีให้การสนับสนุนกองกำลังสหรัฐฯ ที่ประจำการทางตอนเหนือของซีเรีย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศถอนทหาร 2,000 นายออกจากซีเรียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว และทำให้เหลือทหารอเมริกันไม่ถึง 500 นายในภูมิภาค

ธนาคารกลางจีนอาจจะลดดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี หากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด ลดดอกเบี้ยในปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ตามที่มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวาง ซึ่งธนาคารกลางจีนเคยเคลื่อนไหวตามเฟด เมื่อปี 2560 และปี 2561 โดยมีการขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้นในตลาดเงินไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่เฟดขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากจีนต้องการผ่อนคลายนโยบายการเงิน หลังจากที่สงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ กำลังสร้างความเสียหายมากขึ้น การเติบโตของจีดีพีใกล้ที่จะอยู่ในระดับต่ำสุดของเป้าหมายการเติบโตในปี 2562 ซึ่งจีนตั้งไว้ที่ร้อยละ 6-6.5

นักวิเคราะห์เตือนว่า การส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบาย อาจกดดันเงินหยวนและกระตุ้นให้เงินทุนไหลออกนอกประเทศ

นายเจมส์ ฟอน มอลท์เก หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของธนาคารดอยซ์แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของเยอรมนี เปิดเผยว่า แผนการปรับโครงสร้างธนาคารครั้งล่าสุด จะเป็นการปรับโครงสร้างเป็นครั้งสุดท้ายของธนาคาร หลังจากที่มีการดำเนินการมาแล้วหลายครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยธนาคารประกาศปรับลดพนักงาน 18,000 ตำแหน่ง เหลือ 74,000 ตำแหน่งภายในปี 2565 และลดสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงลงราวร้อยละ 40 ในธุรกิจที่ประสบปัญหา และจะไม่มีการจ่ายเงินปันผลในปี 2562 และ 2563 นอกจากนี้ยังเตรียมถอนตัวออกจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ทั่วโลก และคาดว่าการปรับโครงสร้างครั้งนี้จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 7 พัน 4 ร้อยล้านยูโรภายในปี 2565 ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารขาดทุนราว 2 พัน 8 ร้อยล้านยูโรในไตรมาส 2/2562 โดยธนาคารจะเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้

ราคาน้ำมันในตลาดโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ ปิดที่ 57.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนเบรนต์ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 12 เซนต์ ปิดที่ 64.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ ลดลง 115.98 จุด หรือร้อยละ 0.43 ปิดที่ 26,806.14 จุด

เอสแอนด์พี ลดลง 14.46 จุด หรือร้อยละ 0.48 ปิดที่ 2,975.95 จุด

แนสแดค ลดลง 63.41 จุด หรือร้อยละ 0.78 ปิดที่ 8,098.38 จุด

...