ป่าแก่งกระจานไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก รอส่งข้อมูลเพิ่มเติมในการประชุมปีหน้า

ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญครั้งที่ 43 ที่กรุงบากู สาธารณรัฐอาเซอร์ไบจาน มีมติไม่รับรองกลุ่มป่าแก่งกระจานของประเทศไทย ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก และให้ไทยกลับไปทำเอกสารเพิ่มเติมแล้วส่งกลับมาพิจารณาใหม่ในปี 2563 ใน 3 ประเด็น คือ เขตแดนไทย-เมียนมา การศึกษาขอบเขตพื้นที่ที่ลดลง และ ข้อกังวลของชุมชนในพื้นที่

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ เป็นการพิจารณาต่อเนื่องในวาระ การขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ให้กับประเทศสมาชิก 193 ประเทศ ทั้งแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติ แหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม และมรดกโลกแบบผสมทั้งสองประเภท โดยในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 3 แห่ง จากที่นำเสนอ 4 แห่ง คือ ทุ่งไหหิน ของ สปป.ลาว เหมืองถ่านหินเก่าออบบิลิน ของอินโดนีเซีย และพุกาม ของเมียนมา เหลือเพียงป่าแก่งกระจาน ซึ่งเดิมมีการประเมินว่าจะได้รับการรับรองตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม แต่มีผู้คัดค้านโดยอ้างอิงเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน จากนั้นก็มีการกำหนดให้ไทยไปทำข้อมูลเพิ่มเติมอีก 3 ประเด็น ซึ่งนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว หัวหน้าคณะ ผู้แทนไทย กล่าวว่า ในระหว่างนี้ จะเชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่กลุ่มป่าแก่งกระจาน เพื่อแสดงให้เห็นว่าไทยมีความตั้งใจที่จะดูแลทรัพยากร เพื่ออนุรักษ์ไว้เป็นมรดกของโลก กับต้องมีการทำงานเพื่อขอเสียงสนับสนุนในการสรรหากรรมการมรดกโลกเพื่อให้ไทยมีโอกาสทำงานในเวทีนี้อย่างเต็มตัวต่อไป ทั้งกล่าวด้วยว่า สิ่งที่น่ายินดีคือ กลุ่มเทวสถานปราสาทพนมรุ้ง ปราสาทเมืองต่ำ และปราสาทปลายบัด จังหวัดบุรีรัมย์ และเมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับการขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแล้ว

...

ภาพจาก wikipedia.org