ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 08.30 น. 8 กรกฎาคม 2562

ประเด็นเศรษฐกิจวันนี้ ติดตามกรณีเอกชนเรียกร้องให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. จัดประชุมนัดพิเศษเพื่อลดดอกเบี้ยนโยบายลงร้อยละ 0.25 เพื่อให้เงินบาทอ่อนค่าลง นายสมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เห็นว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ไม่มีผลต่อค่าเงินมากนัก เพราะเงินจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามา ไม่ได้หวังประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ย เพราะประเทศไทยขณะนี้มีสภาพคล่องที่ล้น  นายสมภพ จึงเสนอให้กระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ตรวจสอบว่าผู้ส่งออกกลุ่มใดได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ และหามาตรการช่วยเหลือตามแต่ละกรณีไป

นายลวรรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. เปิดเผยว่า มีสัญญาณที่ดีต่อเศรษฐกิจไทย จากการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับผู้นำจีนมีการหารือกัน ซึ่งจะส่งผลบวกต่อการส่งออกของไทย แต่เรื่องที่ต้องจับตามองคืออัตราแลกเปลี่ยน เพราะมีแนวโน้มที่เงินบาทจะแข็งค่ามากขึ้น ซึ่งมั่นใจว่าธนาคารกลางแห่งประเทศไทยจะควบคุมได้

ส่วนประเด็นราคาสินค้าเกษตร นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สินค้าเกษตรบางรายการ ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการพยุงราคา หรือการประกันรายได้ เพราะราคาตลาดอยู่ในเกณฑ์ดี ทั้งข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกเหนียว และข้าวเปลือกหอมมะลิ เช่นเดียวกับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ปาล์มน้ำมันซึ่งราคาในตลาดโลกปรับลดลง ส่วนมันสำปะหลังมีโรคใบด่างระบาด ซึ่งทั้ง 2 รายการนี้ อาจต้องใช้การประกันรายได้ก่อน

09.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. กลุ่มผู้เสียหายโซนภาคเหนือมากกว่า 20 รายที่ถูกหลอกให้ลงทุนมูลค่าความเสียหายมากกว่า 17 ล้านบาท จะเข้าร้องเรียนและแจ้งความ

10.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาร์ช จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล จะรับทราบข้อกล่าวหาในคดีเมจิกสกิน ที่สำนักงาน พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ส่วนคดีผลิตยาลดความอ้วนที่มีแหล่งผลิตที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งในการจับกุมผู้ต้องหา นางวสภัสสร สุลำนาจ อายุ 52 ปี เจ้าของแหล่งผลิต ให้การซัดทอดว่ามีเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. อยู่เบื้องหลังการนำตัวยามาใช้ในการผลิต และต้องจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่คนนี้เดือนละ 20,000 บาท ผลการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า บุคคลที่ถูกซัดทอดไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของ สคบ. แต่น่าจะเป็นตำรวจสังกัดกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิด เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งทาง สคบ. เตรียมรายงานผลการตรวจสอบ ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนคดีทำร้ายร่างกายนายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ อายุ 27 ปี นักกิจกรรมทางการเมือง โดยเหตุเกิดในท้องที่ สน.มีนบุรี เบื้องต้นสันนิษฐานว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 2 ครั้งในเดือนมิถุนายนจะเป็นกลุ่มเดียวกัน โดยเมื่อวานนี้ แพทย์อนุญาตให้นายสิรวิชญ์กลับบ้านได้แล้ว

ที่จังหวัดนครปฐม มีกรณีนักเรียนชั้น ม.3 ได้รับบาดเจ็บจากการรับน้องเข้ากลุ่ม ตามที่มีการเผยแพร่ข้อความและภาพของเหตุการณ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเหตุเกิดในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรอำเภอนครชัยศรี ซึ่งต่อมามีการเปิดเผยว่าผู้ที่ลงมือทำร้ายร่างกายจะเข้ามอบตัวที่ สภ.นครชัยศรี ในวันนี้ ซึ่ง พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน กลุ่มเด็กนักเรียนชั้น ม.6 รุ่นพี่ และเด็กนักเรียนชั้น ม.3 รุ่นน้อง โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จำนวนประมาณ 15 คน ได้ไปทำกิจกรรมและมีการรับรุ่นน้องเข้ากลุ่ม โดยให้รุ่นพี่เป็นคนเตะทดสอบ ปรากฏว่ามีรุ่นน้อง 3 คนถูกรุ่นพี่เตะที่หน้าอก 3 ครั้ง ได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่ง รพ.นครปฐม และต่อมาวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 ผู้ปกครองของผู้บาดเจ็บเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้ร่วมกันตรวจสอบที่เกิดเหตุ วาดแผนที่เกิดเหตุโดยสังเขป และได้สอบถามพยานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นแล้ว โดยจะมีการสอบสวนปากคำพยานอย่างละเอียดร่วมกับทีมสหวิชาชีพ และพนักงานอัยการ คดีนี้อยู่ระหว่างการเรียกตัวผู้ต้องหามารับทราบข้อกล่าวหา และนำตัวไปขอให้ศาลสั่งควบคุมตามกฎหมายเยาวชนฯ อีกทั้งยังอยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์บาดแผลของแพทย์ รพ.นครปฐม นำมาประกอบสำนวนการสอบสวน

พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาพบว่ายังมีรุ่นพี่บางกลุ่ม บางสถาบัน ที่ยังก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอื่นใด ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความสูญเสีย จึงขอเตือนให้ระลึกถึงความผิดชอบ การกระทำที่ไม่สมควร เช่น การกระทำที่ถึงเนื้อถึงตัว ทำร้ายร่างกาย เสี่ยงอันตราย ก็ขอให้ละเว้น เพราะถ้าหากเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อชีวิตและร่างกาย ผู้กระทำจะมีความผิดตามกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินคดีกับรุ่นพี่ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไม่มีการละเว้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่ออนาคตของผู้ที่กระทำความผิดได้

...