อิหร่าน อ้างเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเกินข้อตกลงกับมหาอำนาจได้ถึงร้อยละ 5

เว็บไซต์ทางการอิหร่าน รายงานว่า นายอาลี อัคบาร์ เวลายาติ ที่ปรึกษากิจการระหว่างประเทศของอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เปิดเผยว่า อิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อวัตถุประสงค์เชิงสันติได้ถึงร้อยละ 5 ก่อนถึงกำหนดเวลาที่ประเทศมหาอำนาจ ซึ่งประกอบไปด้วยสหราชอาณาจักร  จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี และรัสเซีย รักษาข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2558 ซึ่งแสดงให้เห็นว่า อิหร่านกำลังทำตามคำขู่ที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่จะระงับการปฏิบัติตามข้อตกลงนิวเคลียร์บางส่วน เพื่อตอบโต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่เริ่มใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอิหร่านอีกครั้ง หลังถอนตัวออกจากข้อตกลงเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ตามข้อตกลง อิหร่านจะสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้ไม่เกินร้อยละ 3.67 เพียงพอต่อการผลิตพลังงาน แต่ยังห่างไกลจากระดับสูงกว่าร้อยละ 90 ซึ่งจำเป็นต่อการผลิตอาวุธนิวเคลียร์อยู่มาก

นายเวลายาติ เสริมว่า การเสริมสมรรถนะยูเรเนียมจะเพิ่มขึ้นเท่าที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมเพื่อสันติ และสำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์บูเชห์ จำเป็นต้องเสริมสมรรถนะให้ได้ถึงร้อยละ 5 โดยมีเป้าหมายเชิงสันติโดยสมบูรณ์ ทั้งนี้ บูเชห์เป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพียงแห่งเดียวของอิหร่าน และปัจจุบันกำลังเดินเครื่องด้วยเชื้อเพลิงนำเข้าจากรัสเซีย ซึ่งอยู่ภายใต้การจับตาของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศของสหประชาชาติอย่างใกล้ชิด

สำหรับความเคลื่อนไหวล่าสุดเป็นการตอบโต้สิ่งที่อิหร่านมองว่าเป็นความล้มเหลวของผู้ร่วมลงนามข้อตกลงที่เหลืออยู่ที่ไม่สามารถช่วยอิหร่านได้ และเห็นว่า สหรัฐฯ และชาติยุโรปละเมิดข้อตกลงนี้โดยตรงและโดยอ้อม ดังนั้น อิหร่านจึงจำเป็นต้องตอบสนองอย่างเหมาะสมเท่าที่สหรัฐฯ และยุโรปละเมิด

...

(0610 F171)