*อนุกก.กสม.ขอมติ กสม.ชุดใหญ่ ดำเนินคดีตร.ชุดสืบสวนเกาะเต่าหลังปฎิเสธเข้าปากคำกรณี ผตห.ถูกทำร้าย*

ในการประชุมคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หรือ กสม. หลังญาติชาวพม่าของผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมที่เกาะเต่า ร้องเรียนว่าตำรวจชุดสืบสวนมีการซ้อมทรมานผู้ต้องหาให้รับสารภาพ ขณะที่ ตำรวจชุดสืบสวนไม่ได้เดินทางให้ปากคำ โดยให้เหตุผล ติดภาระกิจ

นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ประธานคณะอนุกรรมการด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาชาวพม่าได้ยืนยันกับญาติระหว่างการเยี่ยมที่เรือนจำเกาะสมุย ว่า ไม่ได้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆาตกรรม แต่ที่ต้องรับสารภาพเพราะตำรวจและล่ามได้บังคับและทำร้ายกาย โดยมีผู้ถูกทำร้าย3คน คือ ตัวผู้ต้องหา2คน และแรงงานต่างด้าวอีก1คน จากกรณีดังกล่าว คณะอนุกรรมการฯได้ส่งหนังสือถึงสตช. ขอให้ตำรวจชุดสืบสวนเข้าชี้แจงข้อเท็จจริง ประกอบด้วย พล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข หัวหน้าชุดสืบสวน และพล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ หัวหน้าพนักงานสอบสวน ซึ่งที่ผ่านมามีประชุมแล้ว4ครั้ง โดยเมื่อวันที่13ต.ค. สตช.แจ้งว่าติดภาระกิจวันตำรวจ ส่วนวันที่20ต.ค. และ27ต.ค. มีตำรวจระดับผู้กำกับการเข้ามาร่วมประชุม แต่ไม่สามารถตอบคำถามแทนผู้ปฏิบัติงานได้ และวันนี้ตำรวจให้เหตุผลว่าติดภาระกิจยังไม่สามารถเข้าชี้แจงได้เช่นกัน

ดังนั้น ทางคณะอนุกรรมการฯมีความเห็นว่า จะส่งเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ 7 คน ลงมติว่า จะใช้อำนาจตาม พรบ. กสม. มาตรา34 แจ้งความดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่เข้ามาชี้แจง หรือไม่  นพ.นิรันดร์ ยืนยัน มีเจตนาที่จะพิสูจน์ให้ทุกฝ่ายเห็นว่า กฏหมายไทยให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่เว้นแรงงานต่างด้าว และมีกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่โปร่งใสตรวจสอบได้เท่านั้น อีกทั้งการตรวจสอบจะทำเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับการละเมิดสิทธิผู้ต้องหา ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีในชั้นอัยการอย่างแน่นอน

ด้านนายสุรพงษ์ กองจันทึก ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ และหัวหน้าทีมทนายความของผู้ต้องหาชาวพม่าในคดีเกาะเต่า กล่าวว่า หลังจากนี้ญาติขอให้สภาทนายความยื่นหนังสือถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) เพื่อขอให้สืบสวนและดำเนินคดีกับตำรวจและล่าม ข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้ต้องหา และใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ