นายกรัฐมนตรี กำชับ กทม.รับมือน้ำท่วม อย่าให้ 'ซ้ำรอยเดิม'

การลงพื้นที่ติดตามการป้องกันแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังของกรุงเทพมหานคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. จุดแรกเป็นโครงการก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank)บริเวณสถานีตำรวจนครบาลบางเขน โดยสำนักการระบายน้ำดำเนินโครงการก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำใต้ดิน (Water Bank) บริเวณสถานีตำรวจนครบาลบางเขน โดยมี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)ลงพื้นที่ด้วย  

การก่อสร้างบ่อหน่วงน้ำที่ซอยอัมรินทร์ 3 และบ่อรับน้ำที่ปลายคลองบางบัว เพื่อดึงน้ำฝนที่ท่วมขังบริเวณวงเวียนบางเขนมากักเก็บไว้ในบ่อหน่วงน้ำ เมื่อฝนหยุดตกหรือระดับน้ำในคลองลดต่ำลง จะสูบน้ำที่เก็บไว้ระบายลงคลองบางบัว และอีกส่วนหนึ่งระบายลงคลองรางอ้อรางแก้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวระหว่างรับฟังแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมว่าแผนทุกอย่างจะต้องบูรณาการ แก้ไขอย่างเป็นระบบและเด็ดขาด อย่าให้เกิดปัญหาซ้ำรอยเดิมๆ แต่ด้วยนิสัยคนไทย เดือดร้อนก็จะให้แก้ปัญหาให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งทำได้ยาก งบประมาณก็เพิ่มขึ้นทุกวัน จากนั้นได้ขอให้เจ้าหน้าที่เปิดฝาท่อบ่อหน่วงน้ำดูว่า น้ำระบายได้จริงหรือไม่ ก่อนถามเจ้าหน้าที่ว่าน้ำจะท่วมอีกหรือไม่ ด้านเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าน้ำจะไม่ท่วม หากปริมาณน้ำฝนไม่มากเกิน ระดับบ่อหน่วงน้ำที่สามารถเก็บน้ำได้ถึง 1,000 ลบ.ม.

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม (Pipe jacking) บริเวณแยกเกษตรศาสตร์ และโครงการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบระบายน้ำตามแนวถนนวิภาวดีรังสิต พร้อมระบุว่า ส่วนตัวเสียดายน้ำในลำคลอง ผู้บริโภคไม่ได้ใช้ จึงต้องแก้เรื่องระบบน้ำเสียและในการบำบัดน้ำเสียในบ้านเรือนก่อนทิ้งพร้อมยืนยันว่ารัฐบาลหน้าจะทำงานต่อเพื่อตอบสนองประชาชน

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ได้กล่าวสอดรับนโยบายนายกรัฐมนตรีเรื่องการทำน้ำเสียเป็นน้ำดี ก่อนลงคลอง ลดการทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาเพียงอย่างเดียว โดยปีนี้เตรียมของบกลางของรัฐบาลทำบ่อบำบัดน้ำเสีย เพิ่ม 4 จุด  ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้น ยืนยันทุกฝ่ายร่วมมือกันทั้งหมดเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน